เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ ที่ศูนย์บริจาคดวงตา โรงพยาบาลวิเชียรบุรี อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ คณะผู้บริหารและทีมแพทย์ มอบประกาศเกียรติคุณและหรีดเคารพศพจากศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย ให้แก่ นายสว่าง ศรีประโค อายุ 69 ปี ที่เสียชีวิต และ ญาติได้บริจาคอวัยวะคือ กระจกตา 2 ข้าง ให้แก่ศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยรายอื่นได้มองเห็นถึงอีก 2 ราย โดยมีญาติของผู้เสียชีวิตเป็นตัวแทนรับมอบ ส่วนศพนายสว่าง ศรีประโค ขณะนี้ญาตินำไปตั้งบำเพ็ญกุศลทางศาสนา ณ บ้านเลขที่ 269 หมู่ 15 ต.สระกรวด อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ และกำลังประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมศพ โดยมีญาติๆ และชาวบ้านมาร่วมฟังพระสวดจำนวนหนึ่ง
นางสาวศรีสุวรรณ ศรีปะโค อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นบุตรสาวของผู้บริจาคอวัยวะ(กระจกตา) เล่าว่า พ่อป่วยด้วยอาการเลือดออกในสมอง เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีเทพ ก่อนมีการส่งต่อโรงพยาบาลวิเชียรบุรี ระหว่างการรักษาได้มีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลมาติดต่อชักชวนให้บริจาคดวงตาของพ่อ ซึ่งตอนแรกก็ตกใจ แต่หลังจากได้ศึกษาเอกสารก็มีความเข้าใจในระดับหนึ่ง ประกอบกับคนในครอบครัวมีประสบการณ์ในการรอรับบริจาคกระจกตา ซึ่งต้องรอนานถึง 3 ปี จนต้องตัดสินใจจ่ายเงินทำเลสิคเองมาแล้ว จึงมีความคิดว่าจะบริจาคอวัยวะกระจกตาของพ่อ

อย่างไรก็ตาม พ่อไม่เคยแสดงความจำนงค์ขอบริจาคอวัยวะมาก่อนจึงเป็นภาระการตัดสินใจของญาติที่ต้องตัดสินใจแทน ส่วนหนึ่งคิดว่าจะได้เป็นกุศลและขอกุศลแห่งบุญครั้งนี้ ส่งดวงวิญญาณของพ่อสู่ภพภูมิที่ดี จึงตัดสินใจร่วมกันได้ในที่สุด และอยากบอกทุกคนว่า มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด การบริจาคดวงตา ไม่ได้ควักดวงตาออก แต่เป็นการผ่าตัดเอาเพียงกระจกตา ไม่ได้ทำให้ร่างกายของผู้เสียชีวิตน่ากลัว หรือผิดปกติแต่ย่างใด รวมทั้งผู้บริจาคและครอบครัวได้รับการดูแลจากแพทย์และคณะผู้บริหารโรงพยาบาลวิเชียรบุรีเป็นอย่างดี โดยมอบเกียรติบัตรและพวงหรีดเคารพศพแก่ครอบครัว ศรีปะโค และช่วยเหลือดูแลในการจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพให้อีกด้วย
ด้านนายเชิดชัย คงจำนงค์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร โรงพยาบาลวิเชียรบุรี กล่าวว่า ศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย โรงพยาบาลวิเชียรบุรี เปิดทำการมาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2566 สำหรับนายสว่าง ศรีประโค เป็นผู้บริจาครายที่ 3 ของศูนย์ดวงตาฯ ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่ส่งมาจากโรงพยาบาลศรีเทพ อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ส่งมาทำการรักษาต่อที่โรงพยาบาลวิเชียรบุรี และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ผู้ป่วยไม่ได้แจ้งความประสงค์บริจาคอวัยวะไว้ แต่ญาติมีประสบการณ์จากการอรับบริจาคอวัยวะที่ต้องรอนานจึงเห็นความสำคัญและพูดคุยกับผู้บริจาคก่อนเสียชีวิต ญาติทั้งหมดจึงตกลงกันบริจาคอวัยวะกระจกตาดังกล่าว