เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินลงมาจากตึกไทยคู่ฟ้า ภายหลังสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลตั้งฉายารัฐบาล โดยสื่อมวลชนถามว่ารู้สึกอย่างไรกับฉายา “แพทองโพย” โดยนายกฯ หยอกล้อสื่อมวลชนกลับมาว่า “ไม่ใช่ เราเป็นแพทองแพด เราใช้ไอแพด ไม่ได้ใช้โพย โพยต้องเป็นกระดาษใช้หรือไม่” ก่อนหัวเราะและบอกกับสื่อว่า “แซวเล่น สดใสหน่อย” ไม่ได้โกรธ 

เมื่อถามถึงฉายา “รัฐบาลพ่อเลี้ยง” ที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้แนวทางเรื่องการทำงาน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คิดว่าเป็นเรื่องดี คุณพ่อมีประสบการณ์ ส่งเสริมกันก็เป็นเรื่องดี ตอนเศรษฐกิจยุคคุณพ่อก็ดี บางอย่างที่ปรับใช้ในยุคนี้ได้ก็ยิ่งดี เราต้องหัดมองมุมที่ดีบ้าง ไม่มองมุมที่เป็นดราม่าต้องทะเลาะกันแบบนี้เหนื่อย ชีวิตทุกคนทำงานมาทั้งปีแล้วตอนนี้เป็นโหมดต้องแฮปปี้แล้ว เราทำงานมา 1 ปี แฮปปี้อะไรบ้าง มีความสุขกับเรื่องอะไรบ้าง แล้วภูมิใจกับตัวเองในเรื่องอะไรบ้าง ขอให้ทุกคนคิดแบบนี้ก็แล้วกัน มันจะปีใหม่แล้ว อากาศก็ดีด้วย สดชื่นสดใส ให้ทุกคนได้พักผ่อนกัน อย่าไปเครียดมาก เรามีเรื่องเครียดในชีวิตเยอะแล้ว อะไรแฮปปี้ได้ก็แฮปปี้ 

เมื่อถามถึงวาทะแห่งปี “สามีเป็นคนใต้”  นายกฯ กล่าวว่า สามีเป็นคนใต้ คุณพ่อเป็นคนเหนือ คุณแม่เป็นคนภาคกลาง ส่วนพี่ๆ เป็นลูกครึ่ง ก็ดี มันก็คือความจริง สามีเป็นคนใต้จริงๆ 

เมื่อถามต่อว่า จากกรณีดังกล่าวมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการไม่ลงพื้นที่ภาคใต้ในเหตุการณ์น้ำท่วม นายกฯ กล่าวว่า อย่างที่ตนพูดทุกครั้ง เราต้องเป็นนายกฯ ของประเทศไทย ไม่ว่าอยู่จังหวัดไหนก็ต้องดูแลหมด และการจะลงพื้นที่น้ำท่วมที่มีหลายจังหวัด นายกฯ ไปคนเดียวหมดไม่ไหวแน่นอน คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีหลายคนก็ช่วยกันไป อันดับแรก สส.ต้องดูแลประชาชนก่อน และตนถ้าไปเองได้ก็ไปทันที สื่อมวลชนก็เห็นอยู่แล้วและทราบตารางงานว่าช่วงเดือน พ.ย.ถึงต้นเดือน ธ.ค. แน่นจริงๆ พอไปได้ก็ไปเลย คนบอกว่าไม่ลงพื้นที่ไม่ไปตรงนั้น แต่เราเคาะเงินเยียวยาภาคใต้เร็วที่สุด ถ้ามีประเด็นกับภาคใต้คงไม่เคาะให้เร็ว และไม่ทำ

“เป็นหนึ่งคนที่ผ่านอะไรมาเยอะในชีวิตตั้งแต่เด็กไม่ว่าจะเรื่องการเมืองหรือเรื่องอะไรก็ตาม แต่อยากให้นึกว่าเกลียดใครจริงๆ นึกไม่ค่อยออก เพราะไม่ค่อยเกลียดใคร เกลียดแล้วมันเหนื่อยเลยรู้สึกว่าไม่ต้องเกลียด ถ้าสมมุติว่าเราไม่ชอบคนนั้น เราก็แค่ถอยออกมา จะไปเกลียดไปไม่ชอบใครมันเหนื่อย” น.ส.แพทองธาร กล่าว 

เมื่อถามอีกว่าแสดงว่า มีภูมิต้านทานทางการเมืองมาตั้งแต่เด็ก นายกฯ กล่าวว่า จะเรียกว่าภูมิต้านทานหรือไม่ ไม่ทราบเหมือนกัน แต่แค่รู้สึกว่าถ้าเราไม่ชอบตรงไหน ก็แค่ถอยออกมา อยู่ในจุดที่เราโอเค และแฮปปี้เราก็อยู่ตรงนั้น

เมื่อถามด้วยว่าหลังได้รับฟังเสียงสะท้อนจากสื่อ โซเชียล และสังคมแล้วตั้งเป้าการทำงานในปีหน้าอย่างไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า เป้าหมายของตนคือความเดือดร้อนของประชาชน ต้องแก้ไขก่อน อะไรเดือดร้อนต้องแก้ก่อน บางอย่างที่ต้องใช้เวลาแก้ เช่น เรื่องปัญหาเศรษฐกิจ การสร้างรายได้ ต้องรีบทำคู่กันไป อะไรที่คิกออฟได้ต้องออกให้หมด ส่วนเรื่องของความรู้สึกหรือดราม่าที่ว่ากันก็ว่าเป็นเรื่องๆ ไป.