อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ได้พูดถึงเรื่องนี้ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “หมอหมู วีระศักดิ์” ซึ่งเปิดผลการศึกษาวิจัยใหม่ล่าสุดว่า “เตือนด่วน “ฆาตกรเงียบ” ระบาดหนักช่วงคริสต์มาส-ปีใหม่”

โดยหมอหมู ระบุข้อความว่า “ช่วงเทศกาลอาจเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนมักจะละเลยนิสัยที่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นเรื่องของการดื่มแอลกอฮอล์ “โรคหัวใจช่วงวันหยุดเทศกาล (Holiday heart syndrome)” หมายถึง ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่เกิดขึ้นหลังจากดื่มหนักติดต่อกันในช่วงเทศกาล”
อีกทั้ง โรคหัวใจช่วงวันหยุดเทศกาล มีดังต่อไปนี้
1. การดื่มสุราหนักในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ อาจนำไปสู่ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งอาจนำไปสู่การเกิดเส้นเลือดในสมองอุดตัน และหัวใจล้มเหลวตามมา
2. โรคหัวใจช่วงวันหยุดเทศกาลมักเกิดขึ้นหลังจากดื่มหนัก ซึ่งหมายถึงการดื่มไวน์ 13% มากกว่า 1 ขวดครึ่ง หรือดื่มเบียร์ 5% มากกว่า 9 กระป๋อง หรือดื่มเหล้า 40% มากกว่า 12 แก้วชอตภายในวันเดียว
3. ความเชื่อมโยงระหว่างการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป กับปัญหาหัวใจนี้ได้รับการระบุครั้งแรกโดย ดร.ฟิลิป เอตทิงเกอร์ และทีมงานของเขาในปี 1978 หลังจากที่พวกเขาสังเกตเห็นผู้ป่วย 24 ราย เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ หลังจากดื่มหนักมาตลอดทั้งสุดสัปดาห์
โดยอาการของโรคหัวใจช่วงวันหยุดเทศกาล มีดังต่อไปนี้
1. ใจสั่น
2. อ่อนเพลีย อ่อนแรง
3. เวียนศรีษะ สับสน
4. หายใจลำบาก เจ็บแน่นหน้าอก
อีกทั้ง สาเหตุของโรคหัวใจช่วงวันหยุดเทศกาล เกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน ได้แก่
1. การดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนัก
2. การอดนอนในช่วงเทศกาลวันหยุด
3. ความเครียดจากการสังสรรค์ในช่วงเทศกาลวันหยุด
4. ทานอาหารที่มีไขมันและเกลือมากเกินไป
นอกจากนี้ วิธีการดูแลตัวเองมีดังต่อไปนี้
1. ดื่มแอลกอฮอล์อย่างมีลิมิต
2. หาเวลาพักผ่อนหรือไปทำกิจกรรมอื่นแทนการดื่ม
3. หลีกเลี่ยงการกินอาหารประเภทที่มีไขมันและเกลือ
อย่างไรก็ตาม ทั้งนี้การรักษาโรคหัวใจช่วงวันหยุดเทศกาล ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ โดยแพทย์อาจให้ยารักษาโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ ข้อมูลทั้งหมดที่หมอหมูนำเสนอมีการอ้างอิงแหล่งที่มาชัดเจน และได้พยายามอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ แต่บางครั้งอาจมีการโต้แย้งในข้อมูล ซึ่งเป็นเรื่องปกติในแวดวงวิชาการ ดังนั้นจึงขอเรียนทุกท่านว่า โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านบทความของหมอหมู และควรหาข้อมูลเพื่มเติมเพื่อความถูกต้องอีกครั้ง..
ขอบคุณข้อมูล : หมอหมู วีระศักดิ์