เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ที่ศาลจังหวัดเลย ต.กุดป่อง อ.เมืองเลย ผู้พิพากษาศาลจังหวัดเลยขึ้นบัลลังก์ อ่านคำพิพากษา กรณีนายกิตติพันธ์ ปฐมชัยเกียรติ ไวยาวัจกร ผู้รับมอบอำนาจ พระสิริรัตนเมธี เจ้าอาวาสวัดโพนชัย ในนามรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธาตุศรีสองรัก เป็นผู้มอบอำนาจ โดยมีอัยการจังหวัดเลยร่วมเป็นทนายให้ คณะกรรมการมูลนิธิพระธาตุศรีสองรัก มี นายอุดร แสวงผล กรรมการมูลนิธิพระธาตุศรีสองรัก และคณะรับฟังคำพิพากษา

โดยเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 64 ทนายฝ่ายโจทก์ ฟ้องร้องกรมที่ดินเป็นจำเลยที่ 1 อธิบดีกรมที่ดินเป็นจำเลยที่ 2 และสำนักงานที่ดินจังหวัดเลย สาขาอำเภอด่านซ้าย เป็นจำเลยที่ 3 ขอให้เพิกถอนหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (นสล.) เนื้อที่ 106 ไร่ 3 งาน 91 ตารางวา ที่ออกให้เป็นที่สาธารณประโยชน์ร่วมกัน โดยอยู่ในความดูแลของกระทรวงมหาดไทย ออกทับที่ดินของวัดพระธาตุศรีสองรัก ขอที่ดินพระธาตุศรีสองรัก คืน
สำหรับคำฟ้อง ระบุว่า ตามหนังสือรับรองสถานภาพวัดของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ บันทึกไว้ว่าบริเวณพระธาตุศรีสองรักมีฐานะเป็นวัดมาตั้งแต่ พ.ศ. 2103 ชาวบ้านเรียกว่า “วัดธาตุ” และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2109 มีพระอุโบสถ มีศาลาการเปรียญ มีหอระฆัง และพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ 5 รูป เป็นวัดที่ได้รับการจัดตั้งถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ มีเนื้อที่ทั้งหมด 106 ไร่ 3 งาน 11 ตารางวา ซึ่งจำเลยทั้งสามทราบอยู่แล้วว่า ที่ดินบริเวณนี้เป็นวัด แต่ยังเพิกเฉย ไม่เพิกถอนหนังสือ นสล.ออก ทำให้โจทก์ไม่สามารถเข้าไปบำรุงดูแลรักษา ปฏิสังขรณ์เสนาสนะให้มั่งคงและอยู่ในสภาพพร้อมให้พระสงฆ์จำพรรษาได้

คำตัดสินของศาลจังหวัดเลย ที่โจทก์ฟ้อง กรมที่ดินเป็นจำเลย 1 อธิบดีกรมที่ดินเป็นจำเลย 2 และสำนักงานที่ดินจังหวัดเลย สาขาอำเภอด่านซ้าย จำเลยที่ 3 นั้น โจทก์ไม่ได้มีฐานะเป็นนิติบุคคล ไม่สามารถฟ้องหน่วยงานของรัฐได้ อีกทั้งฝ่ายโจทก์ยื่นต่อศาล ไม่มีเอกสารอ้างอิงมายืนยันพิสูจน์ว่าฝ่ายจำเลยทำผิดตามข้อกล่าวอ้างให้ยกฟ้อง
หลังฟังคำพิพากษาชนะคดี นายอุดร แสวงผล กรรมการมูลนิธิพระธาตุศรีสองรัก กล่าวว่า ทางคณะกรรมการมูลนิธิพระธาตุศรีสองรัก และชาวอำเภอด่านซ้าย รู้สึกดีใจ ที่พระธาตุศรีสองรัก ที่เป็นที่ศรัทธา เคารพบูชาของชาวอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย จังหวัดใกล้เคียง ชาวไทยทุกคน รวมทั้งชาว สปป.ลาว มีประวัติศาสตร์ความเป็นมากว่า 400 กว่าปี เราต้องเสียเวลามาดำเนินการทางคดีกว่า 3 ปี จากนี้ไปก็จะดำเนินชีวิตตามวัฒนธรรม ประเพณีที่เคยปฏิบัติมา ด้วยความเรียบง่ายเหมือนเดิม ใครที่คิดไม่ได้คงจะได้รับกรรม ที่มาลบหลู่ ซึ่งทางคณะกรรมการจะจัดชี้แจงให้ชาวบ้านอำเภอด่านซ้ายและผู้ศรัทธาทุกคนทราบในโอกาสต่อไป

สืบเนื่องจากเมื่อช่วงปี 2564 นายถาวร เชื้อบุญมี เจ้าพ่อกวน และนางประกายมาศ เชื้อบุญมี เจ้าแม่นางเทียม ผู้นำทางจิตวิญญาณของอำเภอด่านซ้าย และคณะ พร้อมด้วยนายอุดร แสวงผล กรรมการมูลนิธิพระธาตุศรีสองรัก ในฐานะประธานกองทุนปกป้องพระธาตุศรีสองรัก เดินทางมาเป็นพยานให้แก่เทศบาลตำบลด่านซ้าย ในฐานะผู้ร้องสอด คดีหมายเลขดำที่ 102/2564 ที่นายกิตติพันธ์ ปฐมชัยเกียรติ ไวยาวัจกร ผู้รับมอบอำนาจจากวัดพระธาตุศรีสองรัก เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 ขอให้เพิกถอนหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (นสล.) เนื้อที่ 106 ไร่ 3 งาน 91 ตารางวา ที่ออกให้เป็นที่สาธารณประโยชน์ร่วมกัน โดยอยู่ในความดูแลของกระทรวงมหาดไทย ออกทับที่ดินของวัดพระธาตุศรีสองรัก กระทั่งมีการพิพากษายกฟ้องดังกล่าว
