รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งว่า รฟท. เปิดใช้งานอุโมงค์ผาเสด็จ และอุโมงค์หินลับ ซึ่งอยู่ในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระแล้ว ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากเกิดเหตุขบวนรถสินค้าบรรทุกปูนซีเมนต์ที่ 512 (หินลับ-เชียงรากน้อย) ตกรางที่สถานีผาเสด็จ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 67 เวลา 21.25 น. กีดขวางการเดินรถเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) จึงต้องปรับเปลี่ยนเส้นทางเดินรถทุกขบวนในเส้นทางสายอีสาน ไปใช้เส้นทางเดินรถ ช่วงสถานีชุมทางแก่งคอย-ชุมทางบัวใหญ่-นครราชสีมา โดยต้องเดินรถเข้าอุโมงค์ผาเสด็จ และอุโมงค์หินลับด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้เปิดใช้แล้ว แต่เจอปัญหาฝุ่นตลบเข้าห้องโดยสาร จึงต้องหยุดใช้งาน

รายงานข่าวแจ้งต่อว่า การเดินรถเข้าอุโมงค์ผาเสด็จในครั้งนั้น จนถึงขณะนี้ราบรื่นดี ไม่มีปัญหาฝุ่นตลบเข้าภายในห้องโดยสารแล้ว ยังไม่มีเสียงร้องเรียนจากผู้โดยสาร โดยรถทุกขบวนทั้งรถพัดลม และรถปรับอากาศเดินรถผ่านเข้าอุโมงค์ทั้งหมด ทั้งนี้อุโมงค์ผาเสด็จ และอุโมงค์หินลับ เป็นอุโมงค์ทางคู่เดี่ยว โดยเปิดใช้งานทั้ง 2 อุโมงค์ทั้งทางขึ้น และทางล่อง โดยอุโมงค์ผาเสด็จ เป็นอุโมงค์ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีระยะทาง 5.4 กิโลเมตร (กม.) ใช้เวลาในการเดินรถผ่านอุโมงค์ผาเสด็จประมาณ 5 นาที ซึ่งจากการตรวจวัดเกณฑ์มาตรฐานค่าฝุ่นละออง และค่ามลพิษภายในอุโมงค์ ของกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และบริษัทเอกชน ผู้ให้บริการตรวจวัดคุณภาพอากาศในปล่องระบายอากาศ เบื้องต้นพบว่า ค่าฝุ่นอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่ส่งผลกระทบ และไม่ทำลายสุขภาพของผู้โดยสาร

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ขณะนี้ยังเหลือการตรวจวัดค่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ ซึ่ง รฟท. อยู่ระหว่างเตรียมตรวจสอบ โดยจะเชิญหน่วยงานภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้องกับการ รฟท. (Third party) อยู่ภายใต้การควบคุมของกรมควบคุมมลพิษ เข้ามาตรวจวัดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อสร้างความมั่นใจ และสร้างความปลอดภัยในการให้บริการผู้โดยสารอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ยังไม่ได้มีการตรวจสอบ ขอให้ผู้โดยสารไม่ต้องกังวล เพราะภายในอุโมงค์มีระบบที่ตรวจวัดปริมาณค่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่แล้ว หากมีค่าเกินก็จะมีการส่งเสียงเตือน ซึ่งที่ผ่านมายังไม่เคยมีส่งเสียงเตือนแต่อย่างใด

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับอุโมงค์ผาเสด็จ และอุโมงค์หินลับ รฟท. ได้เปิดให้ขบวนรถเข้าใช้บริการเมื่อวันที่ 28 ก.ค. 67 เป็นวันแรก แต่ปรากฏว่า เมื่อขบวนรถไฟวิ่งเข้าภายในอุโมงค์ กลับมีฝุ่นตลบเข้ามายังห้องโดยสารพัดลมชั้น 3 ทำให้ผู้โดยสารภายในขบวนรถไฟได้รับผลกระทบ หลังจากนั้นได้มีการทำความสะอาดอุโมงค์ และมีแผนเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 12 ส.ค. 67 แต่ก็ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ เนื่องจากยังพบว่า ค่าฝุ่น และค่ามลพิษ ยังเกินค่ามาตรฐาน จะส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารได้ อาทิ แสบตา และระคายคอ

นอกจากนี้ยังพบว่าประแจทั้ง 2 ข้าง ซึ่งเป็นจุดที่สับรางรถไฟให้เกิดการเปลี่ยนทิศทาง ยังไม่เรียบร้อยดีด้วย ซึ่งเกี่ยวข้องกับความปลอดภัย จึงต้องเร่งแก้ไขให้เรียบร้อย เพื่อให้กลับมาเดินรถเข้าอุโมงค์ได้อีกครั้งในเดือน ก.ย. 67 แต่ก็ไม่สามารถเปิดใช้งาน จนกระทั่งมีการประสานงานกับกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เข้ามาตรวจวัดค่าฝุ่น และค่ามลพิษภายในอุโมงค์ ก่อนจะเปิดใช้งานในครั้งนี้.