เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2567 ที่รัฐสภา น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะ กมธ.การคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย สส.พรรคเพื่อไทย รับหนังสือจาก น.ส.ฐิตินัดดา รักกู้ชัย ประธานศูนย์สิทธิผู้บริโภค เขตบางกอกน้อย โดยมายื่นหนังสือเพื่อสนับสนุนให้มีการแก้ไขและออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภค จำนวน 3 ฉบับ
น.ส.ฐิตินัดดา กล่าวภายหลังยื่นหนังสือว่า การแก้ไขและออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภค จำนวน 3 ฉบับ ประกอบด้วย ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองผู้บริโภค, ร่าง พ.ร.บ.อาหาร และร่าง พ.ร.บ.ความรับผิดชอบเพื่อความชำรุดบกพร่องของสินค้า เนื่องจากพบว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพเศรษฐกิจ และสังคมในยุคดิจิทัล ทำให้ปัญหาการละเมิดสิทธิผู้บริโภคมีความสลับซับซ้อน หลากหลายและสร้างความเสียหายกับผู้บริโภคมากขึ้น เพื่อให้กฎหมายมีความทันสมัย สอดคล้องกับสถานการณ์ปัญหาของผู้บริโภคในปัจจุบัน จึงมีความเห็นพ้องร่วมกัน ให้จัดทำร่างและเสนอกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภคจำนวน 3 ฉบับ
น.ส.ฐิตินัดดา กล่าวอีกว่า โดยร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค เสนอปรับปรุง เพิ่มเติมการรับรองสิทธิผู้บริโภค ให้เทียบเท่ากับสิทธิผู้บริโภคสากล และเพิ่มเติมหน้าที่ของรัฐ และผู้ประกอบธุรกิจ รวมถึงให้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญาเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าหรือบริการทางออนไลน์ ขณะที่ร่าง พ.ร.บ.อาหาร เสนอแก้ไขในเรื่องการพิจารณาอนุญาตอาหาร และการโฆษณาอาหาร กำหนดให้มีผู้เชี่ยวชาญทำหน้าที่ในกระบวนการพิจารณา อนุญาตอาหาร และหน้าที่ของผู้ประกอบธุรกิจในการรับผิดชอบต่อผู้บริโภค รวมถึงแก้ไขบทกำหนดโทษและอัตราค่าธรรมเนียมให้เหมาะสม
น.ส.ฐิตินัดดา กล่าวอีกว่า ส่วนร่าง พ.ร.บ.ความรับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่องของสินค้า เพื่อแก้ปัญหาซื้อสินค้าใหม่ไม่ได้คุณภาพ มาตรฐาน มีความชำรุดบกพร่อง ใช้งานไม่ได้ ผู้ประกอบธุรกิจไม่ดูแลรับผิดชอบ โดยเฉพาะสินค้าที่มีเทคโนโลยีซับซ้อนจนผู้ซื้อไม่สามารถพบเห็นความชำรุดบกพร่องได้ทันทีในเวลาซื้อขายหรือส่งมอบ
ขณะที่ น.ส.ขัตติยา กล่าวภายหลังการรับยื่นหนังสือว่า ความคืบหน้าการจัดทำร่างกฎหมายแต่ละฉบับว่าร่าง พ.ร.บ.ความรับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่องของสินค้า ได้รับทราบจาก รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่ามีการยกร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวเรียบร้อยแล้วและอยู่ระหว่างให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา เนื่องจากเป็นกฎหมายที่มีความละเอียดอ่อน มีผู้ได้รับผลกระทบ และผู้รับผิดชอบหลายภาคส่วน จึงต้องหารือจากทุกฝ่ายเพื่อทำกฎหมายออกมาอย่างสมบูรณ์และกฎหมายไม่มีความขัดแย้งกัน ทั้งกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ด้วย
น.ส.ขัตติยา กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีการได้รับสินค้าไม่ตรงปก หรือสินค้าชำรุดบกพร่อง ก็มีมาตรการส่งฟรี ในการคืนสินค้ากรณีเก็บเงินปลายทาง ซึ่งจะเป็นการแบ่งเบาความทุกข์ของผู้ซื้อสินค้า ขนาดที่ร่าง พ.ร.บ.อาหารและยา ก็ได้มีการพูดคุยกันทั้งในเรื่องของสลาก คำแนะนำ ในการให้ข้อมูลทางโภชนาการอย่างถูกต้องให้กับประชาชน โดยทั้งสภาและภาคประชาชน ต่างเห็นตรงกันถึงปัญหาที่ต้องการให้ผู้บริโภคได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้าหรือการบริโภคอาหาร
น.ส.ขัตติยา กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ กมธ.คุ้มครองผู้บริโภค ก็จะนำกฎหมายที่เสนอมาไปเปรียบเทียบกับที่กำลังพิจารณาว่ามีส่วนใดที่ยังเห็นตรงกันหรือเห็นต่าง เพื่อหาจุดร่วมกัน และจะเชิญเข้าศูนย์สิทธิผู้บริโภค ร่วมพิจารณาแก้ไขกฎหมายต่อไป