สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. ว่าสำนักข่าวแห่งชาติซีเรีย (ซานา) รายงานว่า กองกำลังฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาลเปลี่ยนผ่านซีเรีย ปฏิบัติการที่จังหวัดตาร์ตุส ทางตะวันตกของซีเรีย ซึ่งเป็นฐานที่มั่นด้านความมั่นคงของกำลังชาวอะลาวิต ซึ่งสนับสนุนอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด
Clashes break out near Tartus in Western Syria between pro-Assad remnants and Syrian armed forces.
— Kurdistan 24 English (@K24English) December 26, 2024
More: https://t.co/3JcCtbPrFr pic.twitter.com/9qtn0HbxCD
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวที่ซานาระบุว่า “เพื่อควบคุมและรักษาความสงบเรียบร้อย” ถือเป็นปฏิบัติการด้านความมั่นคงอย่างเป็นทางการครั้งแรกของรัฐบาลเปลี่ยนผ่านซีเรีย ที่มาจากกลุ่มฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม (เอชทีเอส) ซึ่งเป็นแกนนำของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลอัสซาด และขึ้นสู่อำนาจเมื่อต้นเดือนนี้ หลังสามารถโค่นล้มรัฐบาลอัสซาดได้สำเร็จ
ทั้งนี้ ก่อนการลงพื้นที่ของกองกำลังจากรัฐบาลชุดใหม่เพียงวันเดียว เกิดเหตุปะทะในพื้นที่ของจังหวัดตาร์ตุส ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเสียชีวิตอย่างน้อย 14 นาย และมือปืนอีกอย่างน้อย 3 ราย
Intense fighting in Tartus right now between HTS security forces and what Damascus describes as the remnants of Assad regime #Syria pic.twitter.com/s42O9aroXO
— kurdish blogger (@kurdishblogger) December 26, 2024
ขณะที่นายอาเหม็ด อัล-ชารา ผู้นำซีเรีย ซึ่งเป็นหัวหน้าของเอชทีเอส ยืนยันการบรรลุข้อตกลงกับ “กองกำลังติดอาวุธทุกกลุ่ม” ในซีเรีย ในการที่แต่ละกลุ่มยุติการเคลื่อนไหว และเข้าสู่ “กระบวนการบูรณาการ” ภายใต้การกำกับดูแลโดยกระทรวงกลาโหม และเน้นย้ำว่า “อาวุธทั้งหมดที่มีอยู่ในประเทศ” ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ โดยรวมถึงอาวุธของกองกำลังนักรบชาวเคิร์ด ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ทางเหนือของประเทศ
แม้กองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย (เอสดีเอฟ) ซึ่งเป็นกองกำลังชาวเคิร์ด ที่สหรัฐให้การสนับสนุน ออกแถลงการณ์ว่า การให้เอสดีเอฟเข้าร่วมกับกองทัพซีเรีย “ต้องมาจากการหารือโดยตรง” แต่ยังไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ของการให้ความร่วมมือ โดยกล่าวว่า การที่กลุ่มติดอาวุธทั้งหมดเข้าร่วมกับกองทัพ “จะทำให้ซีเรียแข็งแกร่งขึ้น”.
เครดิตภาพ : AFP