เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก และการบริการภายในอาคารผู้โดยสาร และตรวจสอบปัญหาความแออัดบริเวณจุดตรวจค้น และจุดตรวจบัตรโดยสารผู้โดยสารภายในประเทศ ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะสามารถรองรับการเดินทางของผู้โดยสารในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายกีรติ กล่าวต่อว่า สำหรับช่วงเทศกาลดังกล่าว ทดม.มีผู้โดยสารใช้บริการมากกว่า 1 แสนคน ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด โดยเฉพาะช่วงเวลา 05.00-07.00 น. เป็นช่วงที่มีปริมาณผู้โดยสารหนาแน่นที่สุดสำหรับการเดินทางภายในประเทศ เนื่องจากเป็นเที่ยวบินแรกของทุกสายการบิน และช่วงเวลา 16.00-18.00 น. โดยพบว่า มีปริมาณผู้โดยสารประมาณ 3,700 คนต่อชั่วโมง ซึ่งสูงกว่าขีดความสามารถปัจจุบันที่ 3,100 คนต่อชั่วโมง อาจทำให้เกิดความแออัด และเกิดความล่าช้า โดยเฉพาะบริเวณจุดตรวจค้น และจุดตรวจบัตรโดยสารผู้โดยสารภายในประเทศ

ทดม.จึงจัดเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมอีก 30% ทั้งเจ้าหน้าที่ตรวจค้น และเจ้าหน้าที่ตรวจบัตรโดยสาร เพื่ออำนวยความสะดวก และลดระยะเวลาในแถวคอย ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบผู้โดยสารที่อาจพลาดเที่ยวบิน เพื่อผ่านช่องทางพิเศษ นอกจากนี้ ทดม.ได้เตรียมแผนที่จะเพิ่มจำนวนจุดตรวจค้นผู้โดยสารภายในประเทศ ภายในระยะเวลา 3 เดือน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสาร จากเดิม 12 จุด เพิ่มอีก 5 จุด รวมเป็น 17 จุด ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการเดินทาง คาดว่าจะสามารถแก้ปัญหาความแออัด และความล่าช้าบริเวณดังกล่าวในระยะยาวได้

นายกีรติ กล่าวอีกว่า ขอเน้นย้ำให้ผู้โดยสารลงทะเบียนใช้งานระบบสแกนใบหน้า พิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล (Biometric) จะช่วยให้การเดินทางรวดเร็วและสะดวกมากยิ่งขึ้น ลดเวลารอคอยขั้นตอนการตรวจบัตรโดยสาร การตรวจค้นและก่อนขึ้นเครื่อง ซึ่งจากการตรวจสอบจำนวนผู้โดยสารที่ใช้งานระบบ Biometric พบว่า สามารถลดระยะเวลารอคอยของผู้โดยสารได้ถึง 3,000 คนต่อชั่วโมง ทั้งนี้ ทดม.ขอความร่วมมือผู้โดยสาร อย่าลืมเผื่อเวลาเดินทางเพื่อป้องกันความผิดพลาดในการเดินทาง สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ ควรเผื่อเวลาก่อนการเดินทางอย่างน้อย 3 ชั่วโมง และเที่ยวบินภายในประเทศ ควรเผื่อเวลาก่อนการเดินทางอย่างน้อย 2 ชั่วโมง.