เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ที่สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน ชั้น 2 สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารศูนย์ราชการฯ ถนนเเจ้งวัฒนะ น.ส.เบญญา อายุ 46 ปี ชาวจ.เชียงราย เข้ายื่นหนังสือร้องขอความช่วยเหลือทางกฎหมาย กับนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) กรณีถูกหลอกซื้อที่ดิน

น.ส.เบญญา กล่าวว่า มีคนมาติดต่อซื้อที่ดินของตนเป็นที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์ ในจังหวัดเชียงราย และไม่มีการรังวัด โดยตนแสดงเจตนาการจะซื้อขายด้วยใช้วิธีแบบเหมายกแปลงชี้ แนวเขตแบ่ง เนื้อที่ใช้การกะประมาณคร่าว ๆ โดยการวัดด้วยแอปพลิเคชั่น Ling (ลิง) เป็นแอปพลิเคชั่นสำหรับวัดขนาดพื้นที่ โดยไม่ถือเอาเนื้อที่เป็นสาระสำคัญ ต่อมาคนซื้อได้ต่อรองราคาของที่ดิน และใช้วิธีการผ่อนชำระรายงวดเป็นระยะเวลา 18 เดือน โดยผู้ซื้อทำสัญญาจะซื้อจะขาย โดยใส่ตัวเลขระบุเนื้อที่เต็มไว้แล้ว ปกปิดไม่ให้ตนเห็นตัวเลขเนื้อที่ดิน ก่อนการลงลายมือชื่อ

น.ส.เบญญา กล่าวต่อว่า ระหว่างผ่อนจ่ายที่ดิน ผู้ซื้อได้แอบเอาช่างรังวัดเอกชนที่เป็นคนของผู้ซื้อมารังวัดเนื้อที่โดยไม่แจ้งแก่ผู้ขาย เพื่อให้เจ้าหน้าที่รังวัดตรวจสอบเนื้อที่ตามที่อยากได้ไว้หลายแนว แล้วใส่ตัวเลขให้มีเนื้อที่น้อยกว่าความเป็นจริง โดยไม่ชำระเงินทันทีอ้างว่า จะเอายอดเงินไปรวมไว้ในงวดสุดท้าย ระหว่างนี้จะเริ่มขอทำแนวโดยขอเอาเสามาลงไว้ อ้างว่าจะได้รู้แนวเขตที่แน่ชัด อีกทั้งขอเอารถไถ รถแบ๊กโฮ เข้ามาเพื่อสร้างสถานการณ์ว่ามีการส่งมอบ มีการถ่ายรูปบันทึกเก็บไว้

พอถึงกำหนดชำระเงินงวดสุดท้าย ก็จะจ่ายไม่ครบแล้วอ้างว่าที่ดินไม่ครบตามจำนวนที่เขียนไว้ในสัญญา อ้างว่าจะไม่จ่ายเงินส่วนที่เหลือและยังขู่บังคับว่าจะต้องให้ที่ดินเพิ่มตามที่เขียนไว้ในสัญญาเป็นการบิดเบือนเจตนาในการซื้อขายเหมาแปลง ตนพยายามเจรจายุติปัญหาเสนอคืนเงินให้ ผู้ซื้อก็ปฏิเสธไม่รับเงินคืน แต่จะฟ้องร้องเอาที่ดินจนเกิดการฟ้องร้องเป็นคดีความ

น.ส.เบญญา เผยว่า ปัจจุบันตนถูกผู้ซื้อฟ้องคดี เป็นจำเลยต่อศาลที่จังหวัดเชียงรายถึง 4 สำนวน และสู้คดีกันมาตั้งแต่ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และในชั้นศาลฎีกา ตนจึงต้องการมาปรึกษาอัยการคุ้มครองสิทธิ์ฯ เพื่อขอคำปรึกษาทางกฎหมาย ว่า แนวทางการต่อสู้คดีในศาลสูง จะต้องต่อสู้ในข้อมูลข้อเท็จจริงอย่างไร เพราะมีประเด็นข้อกฎหมายบางสำนวนที่ถูกฟ้องมามีความขัดแย้งกัน

นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) กล่าวว่า สำหรับกรณีนี้เคยเข้ามาขอความช่วยเหลือกับทาง สคช. แล้ว และมีการฟ้องร้องดำเนินคดีกันอีกหลายคดี ทางสคช.พร้อมจะให้แนวความรู้ข้อกฎหมายที่ถูกต้อง เพื่อให้สามารถไปดำเนินการเองได้ต่อไป ปัญหาของการซื้อขายที่ดินที่ไม่มีการรางวัดทำให้เกิดข้อโต้แย้งกันได้ง่าย ฝากประชาชนทั่วไปจะซื้อขายที่ดินและเกรงว่าจะเกิดปัญหาขอให้ไปปรึกษาอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิใกล้บ้านเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาต่อไป