สวัสดีปีใหม่ 2568 …แผนกข่าวภูมิภาคขอให้ท่านผู้อ่านมีความสุข ร่ำรวยเงินทองตลอดปีมะเส็ง … เริ่มต้นกันด้วยการเมืองท้องถิ่น ที่วันนี้เรียกว่า “ดุเดือด” และคงมันหยดอย่างแน่นอนในปีนี้ บ้านใหญ่ไม่ยอมแพ้ ตัวแทนพรรคการเมืองการทุ่มสุดตัว ….เลือกตั้งครั้งนี้เปรียบเสมือนการเช็คคะแนนก่อนมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร … วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศเป็นวันเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ทั่วประเทศไทย จำนวน 47 จังหวัด อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ต้นปี 2567 มีการทยอยเลือกตั้งนายก อบจ. ในหลายจังหวัด
คงมีหลายคนตั้งคำถามว่า ทำไมมี 2567 มีการเลือกตั้งไปบ้างแล้ว ถ้าพูดถึงตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มีเงื่อนไขด้านเวลาสองประการที่ทำให้นายก อบจ. หลายคนตัดสินใจลาออกก่อนครบวาระการดำรงตำแหน่ง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการตีความกฎหมายที่อาจสุ่มเสี่ยงที่จะโดนจับผิดจากคู่แข่ง และโดนลงโทษจาก กกต. และศาล เงื่อนไขแรก ตามมาตรา 64 กำหนดให้ระยะเวลา 180 วัน หรือประมาณหกเดือนก่อนครบวาระ ให้นับเป็นช่วงเวลาหาเสียง ซึ่งหมายความว่า ถ้านายก อบจ. ที่ยังดำรงตำแหน่งอยู่ต้องการลงสมัครเลือกตั้งอีกสมัย การกระทำต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้จะเข้าข่ายเป็นการกระทำตามกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น เช่น ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ จะต้องถูกตีความเพื่อนำไปคิดเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ซึ่งแตกต่างจากการลาออกจากตำแหน่งที่มาตรการดังกล่าวจะมีผลนับตั้งแต่วันที่ประกาศให้มีการเลือกตั้ง
เงื่อนไขที่สอง ตามมาตรา 65 กำหนดให้ 90 วัน หรือ สามเดือนก่อนครบวาระหรือก่อนลาออก ห้ามผู้บริหารท้องถิ่นกระทำการดังต่อไปนี้ (1) จัดทำ ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด (2) ให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดไม่ว่าจะโดยตรง หรือโดยอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัดหรือศาสนสถานอื่น สถานศึกษา สถานสงเคราะห์ หรือสถาบันอื่นใด (3) ทำการโฆษณาหาเสียงด้วยการจัดให้มีมหรสพหรือการรื่นเริงต่างๆ (4) เลี้ยงหรือรับจะจัดเลี้ยงผู้ใด (5) หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครใด ถ้าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น หรือปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อนุมัติโครงการหรือกิจกรรมใหม่ที่มีลักษณะดังกล่าวภายใน 90 วันก่อนวันครบวาระหรือก่อนการลาออกจากตำแหน่งของผู้บริหารท้องถิ่น ให้ถือว่าเป็นกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมาย รวมทั้งการช่วยเหลืองานบุญ งานทางสังคมต่างๆ ก็อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นด้วย
แต่ถ้าในมองมุมชาวบ้าน การลาออกก่อนครบวาระเป็นกลยุทธ์ทางการเมือง เพื่อสร้างความได้เปรียบ ซึ่งบางจังหวัดทำมาแล้ว ดูได้จากปี 2567 นายก อบจ. บางคนฝันหวานจะได้กลับมานั่งเก้าอี้ครั้ง บางคนฝันสลาย เจ็บช้ำ จุกอก ที่ต้องแพ้การเลือกตั้ง นายก อบจ. ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะแพ้
ส่วนการเลือกตั้ง นายก อบจ. 2568 นี้ 47 จังหวัด จะมีการเลือกตั้งวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 เช่น ภาคกลาง จ.นครนายก นครปฐม นนทบุรี พิจิตร ลพบุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี ภาคเหนือ เชียงราย เชียงใหม่ น่าน แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นครพนม นครราชสีมา บึงกาฬ บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ศรีสะเกษ สกลนคร หนองคาย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ ภาคใต้ กระบี่ ตรัง นราธิวาส ปัตตานี พังงา พัทลุง ภูเก็ต ยะลา สงขลา
สตูล สุราษฎร์ธานี ภาคตะวันออก จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด ปราจีนบุรี ระยอง ภาคตะวันตก ประจวบคีรีขันธ์
นายก อบจ. ที่ได้รับการเลือกตั้งและดำรงวาระอยู่ ภาคกลาง จ.ชัยนาท นายก อบจ. จิตร์ธนา ยิ่งทวีลาภา,
นครสวรรค์ นายก อบจ. พล.ต.อ.สมศักดิ์ จันทะพิงค์, ปทุมธานี นายก อบจ. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง, พระนครศรีอยุธยา นายก อบจ. สมทรง พันธ์เจริญวรกุล, พิษณุโลก นายก อบจ. มนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์, สุโขทัย นายก อบจ. มนู พุกประเสริฐ, อ่างทอง นายก อบจ. สุรเชษ นิ่มกุล, อุทัยธานี นายก อบจ. เผด็จ นุ้ยปรี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กาฬสินธุ์ นายก อบจ. เฉลิมขวัญ หล่อตระกูล, ขอนแก่น นายก อบจ. วัฒนา ช่างเหลา, ชัยภูมิ นายก อบจ. สุรีวรรณ นาคาศัย, ยโสธร นายก อบจ. วิเชียร สมวงศ์, ร้อยเอ็ด นายก อบจ. เศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์, เลย นายก อบจ. ชัยธวัช เนียมศิริ ภาคใต้ ชุมพร นายก อบจ. นพพร อุสิทธิ์, ระนอง นายก อบจ. สีหราช สรรพกุล ภาคตะวันออก สระแก้ว นายก อบจ. ฐานิสร์ เทียนทอง ภาคตะวันตก กาญจนบุรี นายก อบจ. ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ, ราชบุรี นายก อบจ. วิวัฒน์ นิติกาญจนา เป็นต้น
ส่วนพรรคการเมืองที่เปิดตัวแล้วสำหรับผู้ชิงเก้าอี้นายก อบจ. นั่นคือ พรรคประชาชน มี จำนวน 12 คน คือ พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่, วีระเดช ภู่พิสิฐ ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.ลำพูน, สุพจน์ สุอริยพงษ์ ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.มุกดาหาร, อุรุยศ เอียสกุล ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.หนองคาย, ชลธี นุ่มหนู ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.ตราด, นพ.เลอศักดิ์ ลีนะนิธิกุล ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.ภูเก็ต, นพ.จิรชาติ เรืองวัชรินทร์ ว่าที่ผู้สมัคร อบจ.สุราษฎร์ธานี, สุทธิโชค ทองชุมนุม ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.พังงา, นิรันดร์ จินดานาค ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.สงขลา, นันทิยา ลิขิตอำนวยชัย ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.สมุทรสงคราม, นพดล สมยานนทนากุล ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.สมุทรปราการ และ เลิศมงคล วราเวณุชย์ ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.นนทบุรี
ส่วนของพรรคอื่นๆ คาดว่าต้นเดือนมกราคม 2568 น่าจะมีความชัดเจน โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ที่แชมป์เก่าส่วนมากสังกัดพรรคเพื่อไทย หรือเป็นกลุ่มเครือญาติของบ้านใหญ่ในจังหวัดนั้นๆ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 จะเป็นการวัดขุมพลัง ตั้งแต่พลังศรัทธา พลังความสามัคคีของกลุ่มหัวคะแนน และที่ขาดไม่ได้กึ๋นของผู้สมัคร ที่จะตอบโจทย์คนในพื้นที่ได้มากน้อยขนาดไหน ….แต่ก็หวังว่า บรรดาแชมป์เก่า นายก อบจ.เก่า ที่จะดูตัวอย่างจากหลายๆ จังหวัดที่ นายก อบจ.เก่า ไม่สามารถรักษาเก้าอี้ตัวเอง
ความศรัทธาของประชาชนมาจากผลงาน ใครทำอะไรไว้ ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจ 1 กุมภาพันธ์ 2568 อย่าลืมไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกันนะครับ…