จากกรณี “แบงค์ เลสเตอร์” หรือ นายธนาคาร คันธี อายุ 27 ปี ดื่มเหล้าจนช็อกเสียชีวิต ภายหลังญาติทำพิธีฌาปนกิจที่ วัดอยู่ดีบำรุงธรรม เขตสายไหม กทม. เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 30 ธ.ค. 67 ที่ผ่านมา ก่อนที่พ่อและยายจะนำอัฐิกลับมาประกอบพิธีทำบุญให้ตามประเพณี

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 1 ม.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 73 หมู่ที่ 13 บ้านผักบุ้ง ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี พบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว 2 ห้องนอน ที่ปลูกสร้างไปแล้วประมาณ 50% ผนังบ้านบางส่วนยังไม่ได้ก่อและยังไม่ได้ฉาบปูน หลังจากช่วงเช้า นายประเสริฐ คันที อายุ 58 ปี นางพรทิพย์ สังข์ฤทธิ์ อายุ 80 ปี และนายพันธุ์เทพ สังข์ฤทธิ์ อายุ 36 ปี พ่อ ยาย และน้าชาย ร่วมกันนำอัฐิของ “แบงค์ เลสเตอร์” ไปทำบุญร่วมกับชาวบ้าน ที่พากันไปใส่บาตรทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับญาติที่ล่วงลับไปแล้ว ตามประเพณีของชาวบ้านผักบุ้ง ที่จะทำในวันขึ้นปีใหม่ทุกปี ที่ป่าช้าท้ายหมู่บ้าน

โดยในพิธี มีการนิมนต์พระสงฆ์ 4 รูป มาสวดทำพิธี เสร็จแล้วได้แบ่งอัฐิเถ้าในห่อผ้าขาว นำไปขุดหลุมฝังไว้ในป่าช้า โดยเอาต้นจำปามาปลูกไว้ด้านบน ตามความเชื่อของคนในหมู่บ้าน และยังแบ่งอัฐิเถ้าบางส่วนลงในโกศกลับมาที่บ้าน เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลครบ 7 วัน ที่บ้านของพ่อ ต่อด้วยทำบุญครบ 100 วัน ตามลำดับ

โดยพ่อและยาย ได้เข้าไปในห้องนอนที่ตั้งโกศบรรจุอัฐิเถ้าและรูปของ “แบงค์ เลสเตอร์” พร้อมกับบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงอะไรอีกแล้ว ให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี ไปเป็นเทวดาอยู่บนสวรรค์ หากชาติหน้ามีจริง ก็ให้มาเกิดเป็นพ่อลูก และยายหลานกันอีกทุกชาติไป และมาบอกหวยรางวัลที่ 1 ให้ยายด้วย ยายจะได้มีเงินทำบุญไปให้

ภายหลัง คุณยายพรทิพย์ เล่าว่า ตนเดินทางมาอยู่กับอดีตลูกเขย เมื่อคืนนี้น้องแบงค์มาเข้าฝันตน แต่ไม่ได้พูดอะไร มีแต่ยืนส่งยิ้มให้ ที่ตนตัดสินใจมาอยู่บ้านอดีตลูกเขย เพราะเขาเป็นคนนิสัยดี ตนก็รักเขาเหมือนลูก หลังจากนี้ก็จะอยู่กับอดีตลูกเขยไปจนกว่าจะหมดลมหายใจ เขาก็ถามว่าถูกใจบ้านที่มาอยู่ไหม ตนก็บอกว่าชอบและถูกใจ เมื่อวานตนก็ดูรูปน้องแบงค์ จนร้องไห้แล้วเผลอหลับ พอตื่นเช้ามาตนก็ได้ทำบุญให้ และประกอบพิธีฝังอัฐิเถ้าที่ป้าช้า

“…เมื่อวานตอนนั่งรถนำอัฐิน้องแบงค์กลับมาที่นี่ ช่วงจะติดสัญญาณไฟแดง ตนก็บอกน้องแบงค์ว่า ขอให้เป็นไฟเขียว จะได้ถึงบ้านไว ๆ ไฟแดงก็เป็นไฟเขียวทันที และมีกลิ่นน้ำหอมที่น้องแบงค์ชอบใช้โชยมา เพราะน้องแบงค์ตอนมีชีวิตชอบใช้น้ำหอม และจะชอบฉีดให้ยายด้วย ส่วนพ่อเขาก็จะได้กลิ่นน้ำอบและกลิ่นธูป น้องแบงค์ไปดีแล้ว เป็นไปเทวดาบนสวรรค์ ก็บอกเขาว่าให้มาดูแลยายอีกนะ..” คุณยาย กล่าว

ด้าน นายพันธุ์เทพ เล่าว่า ในเรื่องโทรศัพท์ของน้องแบงค์ ตำรวจยังไม่ได้เอาไปตรวจสอบ และยังอยู่กับตน ในส่วนเรื่องเงินในบัญชีน้องแบงค์ 8 แสนบาทนั้น ไม่เป็นความจริง ถ้ามีน้องแบงค์ก็ต้องให้ยายไปแล้ว และในเรื่องบ้าน ต้องรอคุณเอ็ม เอกชาติ อีก 2 วัน จะเดินทางมาดูสถานที่บ้านพี่เขยอีกครั้ง ส่วนความผูกพัน ตนกับพี่เขยนั้น พี่เขยเคยอาศัยอยู่บ้านตนที่กรุงเทพฯ แกเป็นคนดี และดูแลพวกตนเป็นอย่างดี ตนก็รักเหมือนพี่ชายแท้ ๆ อยากบอกดวงวิญญาณน้องแบงค์ว่า ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรอีก หลังจากนี้น้ากับพ่อจะดูแลยายเป็นอย่างดี ให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี ไปเป็นเทวดาบนสวรรค์

ขณะที่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ตนนำอัฐิน้องแบงค์กลับมาที่อุดรธานี ในช่วงที่ตนนั่งอยู่บนรถ และโปรยทาน ตนได้กลิ่นน้ำหอมและธูปโชยมาตลอดเส้นทาง เมื่อเข้าตัว อ.บ้านผือ ก็ได้กลิ่นเหมือนไฟไหม้ เมื่อจอดรถดูก็ไม่มีอะไร ตนคิดว่าน้องแบงค์จะสื่อสารว่า ได้เดินทางกลับมาด้วย ซึ่งตนก็ได้จุดธูปบอกกล่าวแบงค์มาตลอดทาง ว่าได้พายายและน้ามาอยู่ที่ จ.อุดรธานี ด้วย เพราะตนได้เคยสัญญากับลูกชายที่งานศพเอาไว้ว่า จะดูแลคุณยายให้ถึงที่สุด เชื่อว่าวิญญาณของลูกชายยังเป็นห่วงคุณยายของเขาอยู่

“…ในส่วนเรื่องบ้าน ต้องรอดูคุณเอ็มก่อน และสอบถามยายและน้าน้องเอ็มก่อน เพราะตนไม่รู้เรื่องนี้ ตนมีความผูกพันกันกับยายน้องแบงค์ มาตั้งแต่ปี 2536-2542 ตอนนั้นน้องแบงค์อายุเพียง 2 ขวบ ก่อนแยกทางกับภรรยา แต่ก็ยังติดต่อกับลูกชายมาตลอด ตนก็รักคุณยายเมือนแม่แท้ ๆ เพราะแม่ของตนก็เสียชีวิตไปแล้ว…” นายประเสริฐ กล่าวทิ้งท้าย.