สแตนลีย์ อี้ ช่างภาพหนุ่มชาวออสเตรเลียเชื้อสายเอเชียวัย 27 ปี เผยประสบการณ์โดนมิจฉาชีพหลอกลวงผ่านเฟซบุ๊กเมื่อไม่นานมานี้ โดยเขาได้นัดพบกับชายคนนึ่งที่ท่าเรือแมนลีที่หาดทางตอนเหนือของเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย หลังจากพบโฆษณาของชายคนดังกล่าวว่า ต้องการขายกล้องถ่ายรูปซึ่งเป็นรุ่นที่เขาสนใจ
เมื่ออี้มาถึงจุดนัดพบ เขาก็พบชายเจ้าของกล้องนั่งอยู่ในรถของเขาและนำกล้องออกมาให้เขาดู เมื่อเป็นที่พอใจ ทั้งคู่ก็ตกลงราคากันและอี้ก็จ่ายเงินให้อีกฝ่าย
ปรากฏว่าชายเจ้าของกล้องส่งแต่กล่องบรรจุกล้องให้อี้ ส่วนกล้องถ่ายรูปที่เขาเห็นและตกลงราคาซื้อขายกันที่ 1,000 ดอลลาร์ (ราว 21,250 บาท) ยังคงวางอยู่ที่เบาะนั่งฝั่งผู้โดยสารในรถ จากนั้นชายเจ้าของกล้องก็ออกรถอย่างกะทันหัน
อี้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เขารีบวิ่งไล่ตามรถคันดังกล่าวซึ่งไปเลี้ยวกลับรถข้างหน้า
“ผมยังเห็นเงินสดบนแผงหน้าปัดรถอยู่เลย จึงพยายามเอื้อมมือเข้าไปในรถเพื่อหยิบเงิน ตัวผมครึ่งหนึ่งยังอยู่ในรถตอนที่เขาตัดสินใจเร่งความเร็ว” อี้เล่าและบอกว่าเขาถูกรถลากไปประมาณ 30 ฟุต “เขาพยายามผลักผมออกไปจนผมล้มลงกับพื้น โดยเอาช่วงอกลงพื้นและขยับไม่ได้อีก จากนั้นก็มีพยานหลายคนเข้ามาล้อมผมไว้”
อี้พบว่าเขาได้รับบาดเจ็บที่ช่วงอก แขนและขาทั้งสองข้าง ผู้หญิงคนหนึ่งเป็นคนเรียกรถพยาบาลและมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมายังที่เกิดเหคุเพื่อบันทึกปากคำ
ในเวลาต่อมา อี้เล่าว่าเขาลองเปิดกล่องบรรจุกล้องที่มิจฉาชีพส่งให้เขาและพบว่าเป็นกล้องแบบราคาถูกแบบที่วางขายในราคาตัวละ 30 ดอลลาร์ (ราว 640 บาท) เท่านั้น
ชายหนุ่มให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นรายละเอียดของบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กและข้อมูลบัญชีรับเงินเพย์พาลของคนร้าย ซึ่งหลังจากตรวจสอบก็พบว่าเป็นบัญชีที่ผู้ใช้มีตัวตนอยู่จริง ตำรวจจึงสามารถสืบตามเบาะแสจนพบคนร้าย และนำตัวมายังสถานีตำรวจพร้อมกับทำเรื่องคืนเงินให้ผู้เสียหาย โดยอี้ก็ส่งคืนกล้องราคาถูกนั้นกลับคืนไป
คนร้ายอ้างว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นแค่ “ความเข้าใจผิด” และในที่สุดตำรวจก็ปล่อยตัวเขาไป แต่อี้กลับมาอีกครั้งพร้อมกับทนายความเพื่อแจ้งความและตั้งใจจะเอาผิดคนร้ายรายนี้ให้ได้
“พวกเขา (ตำรวจ) บอกว่าไม่สามารถตั้งข้อหาได้หลังจากที่เขาคืนเงินให้ผมแล้ว เท่ากับผมไม่ได้รับความเสียหายทางการเงิน อีกทั้งผมเป็นคนชะโงกเข้าไปเกาะรถของเขาเอง” อี้กล่าวถึงเหตุผลที่ตำรวจปล่อยตัวคนร้ายและบอกว่าเขาต้องออกมาพูดเรื่องนี้ เพราะเขาเห็นคนร้ายคนนี้เอากล้องตัวเดิมไปประกาศขายอีกครั้งในหน้า “มาร์เก็ตเพลซ” หรือหน้าซื้อขายสินค้าของเฟซบุ๊ก
“ผมไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับใครอีกหรือไม่” อี้กล่าว “ผมรู้ว่ามีมิจฉาชีพจำนวนมากบนเฟซบุ๊ก แต่ส่วนใหญ่ไม่ใช่เจ้าของโปรไฟล์ตัวจริง แต่เขามีโปรไฟล์จริงพร้อมลิงก์ไปยังบัญชีอินสตาแกรมของเขา ซึ่งได้รับการยืนยันจากผู้ให้บริการแล้วด้วย”
ด้านโฆษกของตำรวจนิวเซาท์เวลส์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนคืนเงินและกล้องดังกล่าวระหว่างบุคคลทั้งสองแล้ว จึงไม่มีการดำเนินการใดๆ เพิ่มเติม
ที่มา : nypost.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES, Stanley Yee