จากกรณี นายสมบูรณ์ คำสัตย์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ได้หลบหนีไปจากสำนักอัยการจังหวัดสระแก้ว ช่วงเวลาประมาณ 09.40 น. ขณะคุมตัวส่งอัยการเพื่อสั่งฟ้อง แต่ขณะนั้นได้ทำทีลวงเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่าปวดท้องอย่างรุนแรง ก่อนตำรวจผู้ควบคุมได้ไขกุญแจและนำตัวไปส่งยังห้องน้ำเพื่อทำกิจส่วนตัว โดยขณะนั้น ตำรวจเห็นว่าอยู่ในตึกของสำนักงานอัยการฯ จึงได้เดินย้อนกลับมาเพื่อตรวจสำนวนให้แล้วเสร็จ แต่เมื่อเดินกลับไปที่ห้องน้ำ เพื่อนำตัว นายสมบูรณ์ กลับมาลงชื่อในสำนวน ปรากฏว่าไม่พบตัว คาดว่าได้หลบหนีไป จึงรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาทราบโดยด่วน
ต่อมาทาง พ.ต.อ.มนตรี ชูยิ่ง รรท.ผกก.สภ.อรัญประเทศ ได้ลงพื้นที่ทันที พร้อมประสานไปยัง พ.ต.อ.ดำรง เอี่ยมไพโรจน์ ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว ช่วยส่งกำลังตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว มาสนธิกำลังกับชุดสืบสวน สภ.อรัญประเทศ เร่งติดตามตัว ตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ผู้ต้องหาคดียาใช้แผนลวงตร.เข้าห้องน้ำ หลบหนีทั้งกุญแจมือ-ระดมไล่ล่าไร้เงา
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.ภ.2 ได้สั่งการมายัง พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว นำกำลังตำรวจออกไล่ล่า กระทั่งเวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีบุคคลต้องสงสัยเดินวนไปมาอยู่บริเวณทางรถไฟ จึงนำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจสอบ พบว่าเป็นผู้ต้องหาที่หลบหนี จึงเข้าจับกุมตัวไว้ได้ที่บริเวณริมทางรถไฟ หลังศาลหลักเมืองสระแก้ว ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณกว่า 3 กิโลเมตร ซึ่งผู้ต้องหาได้ใช้เสื้อคลุมแขนยาวสีเหลืองพันปกปิดกุญแจมืออำพราง และอยู่ในสภาพอิดโรย จึงคุมตัวกลับมาสอบสวน ที่ สภ.เมืองสระแก้ว
เบื้องต้นให้การอ้างว่า หลังจากโดนจับกุมก็อยากกลับบ้าน จึงได้ใช้อุบายหลอกลวงตำรวจ แล้วใช้จังหวะย่องหลบหนีออกมาด้านหลังตึก แล้วเดินผ่านทะลุหลังศาลากลาง แล้วหลบตามป่า ซึ่งไม่ใช่คนพื้นที่จึงไม่มีบุคคลช่วยเหลือและไม่รู้เส้นทางหลบหนี โดยอาศัยทางรถไฟ หมอบคลานไปเรื่อยๆ เพื่อหวังจะหลบหนีพ้น แต่ก็มาถูกจับกุม ทั้งนี้ ผู้ต้องหาร้องขออาหารและน้ำ ซึ่งตำรวจก็จัดหามาให้กิน.