เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 5 ม.ค. ที่โรงเรียนปล้องวิทยา นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เบอร์ 2 ว่า นายทักษิณ เป็นเจ้าของสถิติที่ไปจังหวัดไหนก็ชนะทุกที่ไม่ว่าจะจังหวัดปทุมธานี อุดรธานี อุบลราชธานี ก็ชนะมาหมด และมาที่เชียงราย เวทีไหนก็เวทีนั้นไม่เคยแพ้ และเวทีนี้นายทักษิณมาเอง และนายกฯ ที่มีผลงานและประสบความสำเร็จมากที่สุดในประเทศไทย และเป็นคนเหนือ เป็นคนที่พูดภาษาเดียวกันกับพี่น้อง ก่อนที่นายณัฐวุฒิจะเล่นมุกว่า “ยอดรัก สลักใจ นายกเชียงรายต้อง ‘สลักจฤฎดิ์'”

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า หลายคนถามตนขึ้นปีใหม่นายกฯ จะไปรอดหรือไม่ ตนเลยตอบกลับไปว่า รัฐบาลอยู่ครบเทอมอีก 2 ปี จนถึงเลือกตั้ง แล้วก็กลับมาใหม่ หลายคนบอกว่านายกฯ ต้องมีพ่อคอยสอน มีพ่อคอยแนะ ก็เขาเป็นพ่อลูกกัน แล้วพ่อก็เคยเป็นนายกฯ มาก่อน ทำงานมีประสบการณ์มีผลงานมาก่อน จะแนะนำให้คำปรึกษาลูกมันแปลกตรงไหน หรือพวกคุณต้องการนายกฯ ที่พ่อแม่ไม่สั่งสอน ขนาดนายกฯ มาเลเซียยังเชิญนายทักษิณไปเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน นับภาษาอะไรกับนายกฯ แพทองธาร ที่เป็นลูกสาวจะขอคำชี้นำไม่ได้ ตนมองว่าเป็นกำไร เพราะนายกฯ แพทองธารกำลังสดใหม่ บวกกับนายทักษิณ ก็เป็นนายกฯ ระดับโลก และการลงไปเจรจากับนายกฯ มาเลเซีย ในเรือกลางทะเลซึ่งถือว่าเป็นการลงเรือลำเดียวกัน อาเซียนไปไหนไปด้วยกัน

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ทุกนโยบายที่รัฐบาลประกาศกำลังจะเกิดขึ้นในปีนี้ และพรรคเพื่อไทย ทำให้คนรวยทุกคนไม่ได้ แต่สร้างโอกาสให้ทุกคนได้ปลดหนี้ และต้นปีรัฐบาลจะประกาศการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับประชาชน