เมื่อวันที่ 5 ม.ค. ที่โรงเรียนปล้องวิทยา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นเวทีปราศรัยในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เบอร์ 2 โดยได้กล่าวตอนหนึ่งถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีว่า ตนไปถามว่าคนในครอบครัวว่าใครจะอาสาเป็นนายกฯ นายกฯ อิ๊งค์ ลูกคนเล็ก ก็อาสาเพื่อจะเสียสละทำงานให้บ้านเมือง ที่ผ่านมามีคนไปกระท่อนกระแท่นว่า น.ส.แพทองธาร มีเครื่องแต่งตัวเยอะ เพราะนายกฯ อิ๊งค์เป็นลูกคนสุดท้อง ตนเป็นคนหลงลูกสาว ตนจึงซื้อของแต่งตัวให้เยอะ มีอะไรก็ซื้อให้หมด ก็เลยมีของเยอะเพราะพ่อซื้อให้ ซื้อให้เอาใจแล้วปีนี้เลยต้องใช้งาน และมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำของนายกฯ แพทองธาร จะแก้ปัญหาประเทศรอบนี้ได้ ปีนี้ ปี 68 ประชาชนจะเห็นว่า เริ่มฝันได้ และปลายปีก็จะต้องฝันแล้วว่าปีหน้าเราจะทำอะไร ปี 68 ต้องเป็นปีที่ทุกคนขยันทำงาน ทั้งรัฐบาลและองค์กรท้องถิ่น รวมถึงจะจัดการให้เรียบทั้งปัญหายาเสพติดและ Call Center 

ช่วงหนึ่งมีมวลชนตะโกนขึ้นมาบอกว่าให้ นายทักษิณกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี นายทักษิณจึงตอบกลับว่า แก่แล้ว ขอสนับสนุนให้ลูกเป็น แล้วคอยส่งเสริมดีกว่า ได้ค่าช่วยหาเสียงวันละ 300 บาท วันนี้มา 3 เวทีได้เวทีละ 100 บาท มาลำบากก็ตอนแก่ เมื่อตอนไม่เล่นการเมืองก็สบาย มีเงินอยู่ 60,000 ล้านบาท พออยู่ไปอยู่มา ก็จนลงเพราะโดนยึดบ้าง โดนหาเรื่องบ้างสารพัดอย่าง “ไอ้พวกควายพวกนี้ หาว่าผมไปเอาตังค์ที่ไหนมา ก็xูรวยตั้งแต่ปี 35-36 แล้ว ตอนนั้นผมรวยที่สุดในประเทศ แต่ตอนนี้จนพอๆ กับชาวเชียงราย” 

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า วันนี้ความคิดของคนไม่เหมือนกัน ตนมีความคิดแบบคนสมัยใหม่ คนรุ่นเก่าบางคนออกมาด่าตนสารพัด มีอยู่คนหนึ่งหาว่าตนสร้างความวุ่นวาย ตั้งแต่แพ้การเลือกตั้ง ตนเมื่อปี 44 ก็แค้นจนถึงทุกวันนี้ คนที่มาด่าตน เขตเลือกตั้งมี 450 คน เลือกเขาแค่ 47 คนแก่แล้วยังลงเลือกตั้งอยู่ แต่ตนพอแล้ว ไม่อยากอะไรแล้ว ช่วยประชาชนดีกว่าทำงานให้บ้านเมือง ไม่มีเงินก็ไม่เป็นไร ตอนตนเป็นชาวเกาะ แก่แล้วกลับมาเป็นชาวเกาะ เกาะเมียกิน ต้องยอมรับว่าตอนนี้บ้านเราหนี้ประชาชนสูง หนี้ประเทศสูง ขอเวลาอีก 2 ปี หนี้ประเทศจะลดลง