เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 6 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นางศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวถึงกรณีที่อธิการบดีมหาวิทยาลัยสยาม แถลงข่าวว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปิดหลักสูตรอบรมอาสาตำรวจจีน ว่า เป็นไปตามที่ปรากฏในข่าว ว่าทางมหาวิทยาลัยไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เป็นผู้บริหารคนหนึ่งของมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นชาวจีน จัดอบรมเองโดยพลการ ไม่มีการขออนุญาตใช้ตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัย ดังนั้นหนึ่งในผู้เสียหายคือมหาวิทยาลัย จึงเป็นหน้าที่ของมหาวิทยาลัยที่จะไปแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับผู้บริหารคนนี้ หลังจากมหาวิทยาลัยยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่มีส่วนรู้เห็น และไม่มีการเก็บเงิน แต่มีการใช้ตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย ถือเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. 2546 ซึ่งผู้บริหารชาวจีนได้ร่วมจัดอบรมกับหน่วยงานเอกชนข้างนอก เก็บเงินผู้เข้าร่วมรายละ 38,000 บาท กว่า 20 คน
นางศุภมาส กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม หากมหาวิทยาลัยไม่ไปแจ้งความร้องทุกข์ กระทรวง อว. ก็จะเข้าไปกำกับดูแลและดำเนินคดีกับมหาวิทยาลัย ส่วนกรอบระยะเวลาไม่ได้มีกำหนด แต่มองว่ามหาวิทยาลัยควรเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด แต่คาดว่า น่าจะใช้เวลาภายใน 1-2 วัน เพราะไม่มีสาเหตุอะไรที่ต้องรอ สังคมรอคำตอบอยู่
นางศุภมาส กล่าวอีกว่า ส่วนตัวได้มีการสอบถามกับมหาวิทยาลัย ถึงความเป็นไปได้ที่ไม่ทราบเรื่องการจัดอบรมดังกล่าว ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้ชี้แจงว่า การจัดอบรมเพิ่งมีแค่ครั้งเดียว และมีคนเข้าร่วมน้อย ไม่ได้ผ่านกระบวนการของมหาวิทยาลัย จึงต้องรอดูต่อไปว่ามหาวิทยาลัยซึ่งเป็นหน่วยงานที่เป็นเจ้าทุกข์ จะไปแจ้งความดำเนินคดีหรือไม่ รวมถึงต้องมีการตั้งกรรมการสอบวินัยของผู้บริหารจีนเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการหักเงินเดือน ตัดเงินตักเตือนหรือไปจนถึงการไล่ออก
นางศุภมาส กล่าวว่า ในอดีตหลักสูตรการจัดอบรมและให้ใบประกาศนียบัตร หรือเรียกว่า Non-degree หรือหลักสูตรที่ไม่ได้รับปริญญา ซึ่งหลักสูตรอบรมดังกล่าว ก็เป็นหนึ่งในหลักสูตร Non-degree ซึ่งไม่มีระเบียบที่จะเข้าไปกำกับดูแลในส่วนนี้ได้ แต่ในระยะหลังเริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับการจัดหลักสูตรอบรมมากขึ้น ทำให้ต้องมาทบทวน รวมถึงแก้ระเบียบที่จะเข้าไปกำกับดูแลหลักสูตร Non-degree ให้เกิดความเรียบร้อย และไม่ให้เกิดความเสียหายด้วย