กำลังเป็นกระแสฮือฮาสนั่นโซเชียลอยู่ในขณะนี้ หลังล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ม.ค. 68 มีการแชร์โพสต์จากผู้ใช้แฟนเพจเฟซบุ๊ก “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC หรือ นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์” แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้ออกมาเผยเคสผู้ป่วยหญิงวัย 89 ปี มีอาการอุจจาระเป็นน้ำมากกว่า 8 ครั้ง เมื่อไปพบแพทย์กลับพบว่า ติดเชื้อโนโรไวรัสจากอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อ ทำให้ท้องเสียเป็นน้ำ ซึ่งเชื้อโนโรไวรัสไม่มีวัคซีนป้องกัน และไม่มียาต้านไวรัส อีกทั้งยังเป็นได้ทุกช่วงวัย แพทย์แนะควรกินร้อน ใช้ช้อนกลาง และล้างมือด้วยน้ำและสบู่

โดยหมอมนูญ ระบุข้อความว่า “ผู้ป่วยหญิงอายุ 89 ปี เข้าโรงพยาบาลวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ด้วยอาการถ่ายอุจจาระเป็นน้ำมากกว่า 8 ครั้ง ไม่อาเจียน ไม่ปวดท้อง มีไข้ต่ำๆ เป็นโรคความดัน ไขมันสูง ลูกอยู่บ้านเดียวกันก็ท้องเสียวันเดียวกัน ตรวจร่างกาย มีไข้ อุณหภูมิ 38.0 องศาเซลเซียส ความดันปกติ ดูอ่อนเพลีย ส่งอุจจาระตรวจรหัสพันธุกรรมของเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และปาราสิต พบเชื้อโนโรไวรัส (Norovirus G1/G2)”

นอกจากนี้ “เมื่อวินิจฉัยพบว่า ติดเชื้อโนโรไวรัสจากอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อ ทำให้ท้องเสียเป็นน้ำ มีไข้ต่ำๆ ไม่อาเจียน เชื้อโนโรไวรัสไม่มีวัคซีนป้องกันและไม่มียาต้านไวรัส เป็นได้ทุกอายุ มักจะพบมากช่วงฤดูหนาว อากาศเย็น ให้การรักษาตามอาการ ให้น้ำเกลือทางเส้นเลือด น้ำเกลือแร่กินทางปาก คนไข้ดีขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง กลับบ้านได้ แนะนำให้ผู้ป่วยล้างมือด้วยน้ำและสบู่หลังสัมผัสกับอุจจาระของตัวเองและอาหารและน้ำย่อยจากกระเพาะอาหารที่อาเจียนออกมาทุกครั้ง”

อย่างไรก็ตาม “เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อให้ผู้อื่น การล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจลไม่สามารถฆ่าเชื้อโนโรไวรัสได้ดีเท่ากับน้ำและสบู่ การกินร้อน ใช้ช้อนกลาง การล้างมือด้วยน้ำและสบู่ ช่วยป้องกันการติดเชื้อโนโรไวรัส” หมอมนูญกล่าว

ขอบคุณข้อมูล : หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC