เมื่อวันที่ 7 ม.ค. นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี เขต 4 และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยภายหลังการประชุม สส.ของพรรค รทสช. ว่า จากการประชุมพรรคในวันเดียวกันนี้ ที่ประชุมได้หารือกันใน 2 ประเด็นหลัก ประกอบด้วย ประเด็นเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 และประเด็นการเสนอร่างพระราชบัญญัติสร้างเสริมสังคมสันติสุข ฉบับพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยในส่วนประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่สภาจะนำเข้าสู่วาระการพิจารณานั้น ทางพรรคยังย้ำว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องเป็นไปตามจุดยืนเดิมของพรรค คือ 1.ต้องเคารพคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด 2.ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ 3.ต้องไม่แตะหรือแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 ของรัฐธรรมนูญอย่างเด็ดขาด
โฆษกพรรค รทสช. กล่าวต่อว่า ดังนั้นการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ต้องยึดไปตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันและคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมา และที่สำคัญ คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 ทั้งต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญและสิ่งที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ ดังนั้นแล้วจะทำประชามติกันกี่ครั้งหรือจะแก้ไขอย่างไร ผู้ที่เกี่ยวข้องก็ต้องปฏิบัติไปตามกฎหมายนี่คือจุดยืนของพรรครวมไทยสร้างชาติ ส่วนอีกประเด็น คือ การหารือกันถึงร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. … หรือคือร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับพรรค รทสช. ที่พรรคเสนอเข้าสู่สภาให้พิจารณาเห็นชอบนั้น พรรคได้มอบหมายให้ตนในฐานะที่เป็นคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เร่งไปประสานกับวิปรัฐบาล เพื่อขอนำร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ขึ้นมาพิจารณาก่อน เพื่อจะได้เร่งนิรโทษกรรมผู้ที่กระทำผิดที่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง
“ย้ำว่าร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับพรรค รทสช. จะนิรโทษกรรมเฉพาะผู้ที่กระทำความผิดทางการเมืองเท่านั้น ไม่นับรวมผู้ที่กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาม.112 คดีที่เกี่ยวเนื่องกับการทุจริตคอร์รัปชั่นและคดีที่เป็นคดีอาญาร้ายแรง ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นจุดยืนสำคัญของพรรคมาโดยตลอด โดยพรรคหวังว่าร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวจะช่วยเสริมสร้างความสามัคคีและความปรองดองของคนในชาติ” โฆษก รทสช. กล่าว.