วันที่ 8 ม.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ในกลุ่ม พวกเราคือผู้บริโภค หลังถูกนำเลขบัตรเดบิตไปชำระเงินออนไลน์จำนวนหลายครั้ง ยอดรวมกว่า 1.8 หมื่นบาท จนเกลี้ยงบัญชี
โดยระบุว่า ทุกวันนี้เราอยู่ในยุคที่ ความปลอดภัยทางการเงิน ในชีวิตเป็น “0” จริงๆ ครับ เหตุจากอยู่ๆ ก็มีรายการหักยอด จากบัตร ATM/Debit ของตัวเอง ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไร ย้ำว่า ไม่ได้ทำอะไรเลย!!! รูดจนหมดบัญชี
เบื้องต้น พอรู้ตัวติดต่อธนาคารเข้า call center เจ้าหน้าที่รับเรื่อง จะตรวจสอบและอายัดบัตรทั้งหมดให้ไว้ก่อน แล้วทำเรื่องเพื่อขอยกเลิกรายการที่ไม่ได้ทำทั้งหมด
ซึ่งสอบถามไปว่าใช้เวลาดำเนินการกี่วัน ธ.บอกได้แค่ประมาณ 37 วัน เงินทั้งบัญชี เงินเดือน+โบนัส เพิ่งจะเข้า ยังไม่ได้ใช้สักบาท ตอนนี้ทำได้แค่รอการดำเนินการอย่างเดียว ซึ่งถามไปว่าจะได้คืนกลับมามั้ย เจ้าหน้าที่พูดแค่อ้ำอึ้ง (เคสนี้ร้ายแรงกว่ามิจฉาชีพหลอกเอาข้อมูลซะอีก)
เคสนี้บัตรโดนเอาไปทั้งเลขบัตรหน้า/หลัง ไป โดยที่ไม่ได้เอาไปผูกกับระบบหักจ่ายออนไลน์จากที่ไหนเลย (ที่แน่ใจว่าไม่ได้ผูกอะไรเพราะบัตรนี้เป็นบัตรติด บัญชีเงินเดือนตัวเอง ซึ่งเวลาใช้จ่าย จะใช้บัญชีจาก ธ.ค่ายอื่น กับบัตรของค่ายอื่น)
ภายหลังโพสต์เรื่องดังกล่าวออกไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลายรายเคยโดนในลักษณะคล้ายกัน เช่น
– เคยโดนครับ ทำให้ผมยกเลิกการใช้บัตรพวกนี้เลย
– เกิดจากพวกสุ่มเลขบัตรหน้าหลังครับ เพราะของผมเพิ่งเปลี่ยนบัตรมาใหม่เลย ไม่ทันได้รูดหรือผูกกับอะไร ทำให้มั่นใจว่าโดนสุ่มเลขแน่ๆ ดีที่ผมระวังตัว ตั้งวงเงิน 0 บาทไว้หมดทุกอย่าง จะใช้ค่อยมาปรับในแอปเอา
– โดนเหมือนกัน
– เป็นประเทศที่ฝากเงินเข้าตู้แม่งยุ่งยากฉิบหาย แต่โดนมิจฉาชีพดูดเงินในบัญชีไม่ถึง 5 นาที เงินหมดบัญชี
– ทุกวันนี้ธนาคารไม่ใช่ที่ปลอดภัยสำหรับเงินอีกต่อไป แบงก์เดียวกับที่แม่ค้าส้มตำหน้าตึกโดนเลย โดนหักเงิน MOL Payment ออกจากบัญชีออมทรัพย์แบบนี้เลยหลายยอด พอไปแบงก์ เจ้าหน้าที่บอกเอาไปหักค่าอะไรหรือเปล่า ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยทำอะไรเลย บัญชีมีไว้แค่ฝากถอนเฉยๆ พอเสิร์ชในกูเกิลคนโดนเพียบเลย