นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ปีใหม่ 68 รฟท. จะเร่งแก้ไขปัญหาและผลักดันงานก่อสร้างโครงการต่างๆ ทั้งรถไฟทางคู่ ระยะ (เฟส) ที่ 1-2 และรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) ให้แล้วเสร็จตามแผนงานที่วางไว้ รวมทั้งเตรียมเปิดบริการรถไฟทางคู่ระยะ (เฟส) ที่ 1 สายเหนือ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กิโลเมตร (กม.) ในเดือน ม.ค. 68 เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน ส่วนสายตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. คาดว่าจะทยอยเปิดบริการบางส่วนได้ภายในปี 68

ระหว่างรอการจัดซื้อรถใหม่ รฟท. ได้วางแผนบริหารจัดการรถโดยสารที่มีอยู่ เพื่อรองรับการเปิดบริการทางคู่ใหม่อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และมีตู้โดยสารเพียงพอต่อการให้บริการ โดยจะนำรถโดยสารรถร้อน ชั้น 3 ที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว ที่อยู่ในโรงรถจักรทั่วประเทศ อาทิ รถที่เคยเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชน รวมทั้งรถโดยสารชั้น 3 ที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน มาซ่อมปรับปรุงใหม่ ทั้งติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ออกแบบเบาะที่นั่งใหม่ให้สะดวกสบายขึ้น ปรับปรุงห้องสุขาเป็นระบบปิด ปรับปรุงภายใน และนำรถไฟฟ้ากำลังปรับอากาศ (Power Car) มาใช้ เพื่อเป็นแหล่งจ่ายไฟฟ้าให้กับระบบต่างๆ ในตู้โดยสารทั้งหมด ทดแทนตู้โดยสารที่ขาดแคลน
เบื้องต้นจะเริ่มปรับปรุง 130 คันวงเงิน 939.70 ล้านบาท ระยะแรกจะปรับปรุงรถโดยสารชั้น 3 จำนวน 40 คัน วงเงิน 295.60 ล้านบาทก่อน อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดโครงการ เพื่อจัดซื้อจัดจ้าง คาดว่าจะเปิดประกวดราคาประมาณเดือน มิ.ย. 68 ลงนามสัญญาจ้างเดือน ก.ย. 68 รฟท. จะส่งมอบรถโดยสารทั้งหมด 8 งวด งวดละ 5 คัน เริ่มส่งมอบรถงวดที่ 1 ภายในปี 68 ผู้รับจ้างต้องปรับปรุงงวดที่ 1 ให้แล้วเสร็จ และส่งมอบรถให้ รฟท.ภายใน 150 วัน ถัดจากวันที่ได้รับมอบรถ คาดว่าจะนำมาให้บริการประชาชนเดือน พ.ค. 69 จำนวน 5 คัน ส่วนที่เหลือจะทยอยและออกให้บริการได้ครบทุกคันภายในปี 71

นายวีริศ กล่าวด้วยว่า สำหรับรถโดยสารชั้น 3 อีก 90 คัน ใช้วงเงินปรับปรุงฯ 644.10 ล้านบาท จะทยอยปรับปรุง และให้บริการต่อไป ขณะเดียวกันจะเร่งผลักดันจัดหารถจักร ล้อเลื่อนเพิ่มการขนส่งผู้โดยสาร และสินค้าต่อไป ขณะนี้โครงการจัดหารถดีเซลรางปรับอากาศ 184 คัน วงเงิน 24,150 ล้านบาท ฝ่ายบริการโดยสารได้วิเคราะห์ผลตอบแทนโครงการ และข้อมูลแวดล้อมเบื้องต้น อาทิ ทบทวนค่าโดยสาร ด้วยการเปรียบเทียบคู่แข่งทางถนน เส้นทางการเดินรถ และผลตอบแทนด้านการเงิน ตามคำแนะนำของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว
เตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการของ รฟท. (Management Committee : MC) และคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง (Executive Committee :Excom) ของ รฟท. ก่อนเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. พิจารณาภายในเดือน ม.ค. 68 คาดว่าเดือน มี.ค. 68 รฟท. จะเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการ ตั้งเป้าหมายภายในปี 68 จะลงนามสัญญาจัดหารถโดยสารได้ และรับมอบขบวนรถปี 71-72

นายวีริศ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้จะเร่งโครงการจัดหารถโดยสารทดแทนรถด่วนพิเศษ และรถด่วน 182 คัน พร้อมอะไหล่ วงเงิน 10,502,100,000 บาท ผ่านความเห็นชอบจากบอร์ด รฟท.แล้ว เตรียมเสนอกระทรวงคมนาคม คาดว่าจะเสนอครม.พิจารณาได้ในเดือน มี.ค. 68 เปิดประมูลเดือน ก.พ. 69 คาดว่าจะได้รับมอบขบวนรถชุดแรก 2 ขบวน เดือน พ.ค. 71 จากนั้นจะรับมอบอีก 4 ขบวนเดือน ก.ย. 71 อีก 4 ขบวนถัดไปเดือน ม.ค. 72 และ 4 ขบวนสุดท้ายเดือน พ.ค. 72 ปัจจุบัน รฟท. มีรถไฟวิ่งบริการประชาชน 220 ขบวน เป็นขบวนรถเชิงพาณิชย์ 74 ขบวน และขบวนเชิงสังคม 146 ขบวน 1,474 คัน เป็นขบวนรถไฟดีเซล 311 คัน และตู้โดยสาร 1,163 คัน จะเพิ่มรถไฟโดยสารได้อีก 496 คัน