เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ที่กระทรวงกลาโหม พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ปัญหายาเสพติดถือเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่ง โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้แก้ไขปัญหายาเสพติด โดยรัฐบาลได้วางแนวทางการสกัดกั้นยาเสพติดที่ชัดเจน พร้อมบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานสำคัญที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้ายาเสพติดผ่านแนวชายแดน โดยกำหนดเป้าหมายระยะสั้น และมีตัวชี้วัดที่ชัดเจน โดยจะต้องเห็นผลภายใน 6 เดือน ซึ่งจะเริ่มคิกออฟ ในวันที่ 30 ม.ค. นี้
พล.ต.ธนาธิป กล่าวต่อว่า ส่วนแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจน การสกัดกั้นยาเสพติดครั้งนี้ จะใช้แนวทางซีลชายแดนสองชั้นเพื่อสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ชายแดนที่มีความเสี่ยงสูงของพื้นที่ 51 อำเภอ ใน 14 จังหวัด โดยแบ่งการดำเนินงานเป็น 2 ชั้น ได้แก่ ชั้นแรก (แนวชายแดน) เป็นความรับผิดชอบของกองกำลังป้องกันชายแดน สนธิกำลังระหว่างตำรวจ ฝ่ายปกครอง และหน่วยที่ทหารรับผิดชอบดูแลสกัดกั้นตามแนวชายแดน ซึ่งจะเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจและสกัดจับยาเสพติดตามช่องทางธรรมชาติ เน้นการป้องกันและสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ที่มียาเสพติดเข้ามาปริมาณมาก เนื่องจากชายแดนไทยกว้างขวางและยาว มีช่องทางธรรมชาติอีกจำนวนมาก และในชั้นที่สอง (พื้นที่ตอนในระดับอำเภอ) เป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่าง ตำรวจ นายอำเภอ ฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง ในการป้องกันและสกัดกั้นยาเสพติด ทั้งการจัดตั้งจุดตรวจ จุดสกัด จัดชุดปฏิบัติการลงพื้นที่
พล.ต.ธนาธิป กล่าวอีกว่า ซึ่งจะมีการเรียกประชุมผู้กำกับการสถานีตำรวจ 76 สถานีตำรวจ, นายอำเภอ 51 อำเภอ และผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่เป้าหมาย เพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหา พร้อมมีการประเมินผลงานทุกวงรอบ 6 เดือน โดยใช้โมเดลต้นแบบที่ประสบความสำเร็จ เช่น ท่าวังผาโมเดล (จ.น่าน).