เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 68 นายชัย วัชรงค์ ผู้แทนการค้าไทย โพสต์ทางเฟซบุ๊กว่า ในฐานะผู้แทนการค้าไทยที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบด้านการค้าและการลงทุนกับประเทศจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และฮ่องกง ทำให้ผมต้องคิดและประเมินว่า ใน 5-10 ปีข้างหน้า การค้าอะไรที่จะสามารถสร้างรายได้ให้ประเทศไทยมากที่สุด…

คำตอบที่ผุดขึ้นมาในสมองทันทีก็คือ ทุเรียนครับ!!! ในปี 66 ไทยสามารถส่งออกทุเรียนได้มากถึงราว 141,000 ล้านบาท ยอดส่งออกแซงหน้ายางพาราและมันสำปะหลัง พุ่งขึ้นมาเป็นอันดับสองของสินค้าเกษตรที่ส่งออกรองจากข้าวแบบหายใจลดต้นคอ ภายในไม่เกิน 2 ปี ก็น่าจะมียอดส่งออกแซงหน้าขึ้นไปเป็นอันดับ 1 อย่างแน่นอน ยอดส่งออกทุเรียนกว่าแสนล้านบาทนั้น เกือบทั้งหมดเป็นการส่งออกไปประเทศจีน (97-98%)

ปี 66 จีนนำเข้าทุเรียนจากไทยราว 9.5 แสนตัน และนำเข้าจากเวียดนามประมาณ 5.5 แสนตัน รวมจากสองแหล่งหลัก จีนนำเข้า 1.5 ล้านตัน คิดเป็นอัตราการบริโภคทุเรียนของคนจีนราวๆ 1 กิโลกรัมต่อคนต่อปี

เมื่อดูตัวเลขอัตราการบริโภคทุเรียนของคนในมาเลเซียที่ 11 กิโลกรัมต่อคนต่อปี…มีโอกาสสูงมากๆ ที่คนจีนจะเพิ่มการบริโภคขึ้นไปเทียบเท่าคนมาเลเซีย (ถ้ามีของป้อนให้มากพอ) นั่นคือ เพิ่มเป็น 11 กิโลกรัมต่อคนต่อปี หรือเพิ่มขึ้นอีกคนละ 10 กิโลกรัมต่อปี คูณด้วยประชากรราวๆ 1.5 พันล้านคน นั่นแปลว่า จีนจะต้องการทุเรียนเพิ่มขึ้นอีกมากถึง 15 ล้านตัน ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นภายใน 10 ปีนับจากนี้ทุเรียน 15 ล้านตัน มีมูลค่ามหาศาลถึง 2 ล้านล้านบาท

หากไทยเราได้ส่วนแบ่งทางการตลาดสัก 60% (ปัจจุบันไทยเรามีส่วนแบ่งตลาดของทุเรียนที่จีนนำเข้าอยู่ที่ราว 63%) หมายถึงโอกาสที่จะส่งออกทุเรียนไปจีนจะเพิ่มขึ้นอีกราว 9 ล้านตัน หรือ 1.2 ล้านล้านบาททีเดียว นั่นคือ เป้าหมายที่ผมล็อกเอาไว้ว่า จะต้องผลักดันให้เกิดขึ้นให้จงได้โอกาสอันยิ่งใหญ่และท้าทายขนาดนี้ ไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นเองได้ง่ายๆ หากแต่จำเป็นจะต้องมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน มีการวางแผนล่วงหน้า และมีการบริหารจัดการอย่างดีเยี่ยมเท่านั้น จึงจะสามารถทำความฝันนี้ให้เกิดขึ้นจริงได้

ดังนั้น เมื่อวานนี้ (8 ม.ค. 68) ผมจึงได้เริ่มนับ 1 ด้วยการเชิญองค์กรและบุคคลที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการผลิต การค้า และการส่งออกทุเรียน มาร่วมประชุมในหัวข้อ…..”การเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการขยายตัวอย่างก้าวกระโดดของตลาดส่งออกทุเรียน“

ปรากฏว่า มีหน่วยงานของรัฐ ทั้งกรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ พร้อมด้วยภาคเอกชน 4 สมาคมผู้ค้าและส่งออกทุเรียน ร่วมด้วย 2 บริษัทผู้ค้าส่งออกทุเรียนรายใหญ่ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน

ผลการประชูมได้ข้อสรุปที่ทำให้เห็นแนวทางที่ชัดเจนว่าจะขับเคลื่อนธุรกิจทุเรียนของไทยให้ก้าวไปคว้าโอกาสการส่งออกเพิ่มขึ้นอีกปีละ 1.2 ล้านล้านบาทได้อย่างไร รวมทั้งทำให้มองเห็นปัญหาเร่งด่วนที่จำเป็นจะต้องเข้าไปช่วยเจรจากับทางการจีน อันเกี่ยวเนื่องกับเงื่อนไขข้อกำหนดใหม่ในการนำเข้าทุเรียนของจีน ที่เรียกร้องให้มีการตรวจสอบสารตกค้างทั้งมากรายการขึ้น และกำหนดมาตรฐานสูงขึ้นกว่าเกณฑ์มาตรฐานสากล

เรื่องเร่งด่วนนี้จะถือโอกาสนำไปพูดคุยกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจีน ในระหว่างที่ร่วมทริปเดินทางไปเยือนจีนกับท่านนายกรัฐมนตรีในช่วงต้นเดือน ก.พ. นี้