เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 68 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ทั้งนี้ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระได้ให้สมาชิกหารือถึงปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน โดยนายบัญชา เดชเจริญศิริกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคกล้าธรรม (กธ.) หารือถึงราคาข้าว ที่วันนี้เพิ่งจะเริ่มต้นฤดู แต่ราคาข้าวเริ่มมีปัญหาตกต่ำเหลือ 7,000-8,000 บาท ต้นๆ เพราะว่ามีปัญหาในระบบของข้าว เช่น พันธุ์ข้าว โดยข้าวที่จะออกในช่วงนาปรัง ในช่วงเดือน ก.พ.-เม.ย. ส่วนใหญ่ข้าวที่นำเข้ามาปลูกในประเทศไทยตอนนี้กลายเป็นข้าวของเวียดนามเป็นส่วนใหญ่ เช่น พันธุ์หอมพวง พวงทอง จัสมิน ซึ่งพอข้าวพวกนี้ออกมาคือ ปัญหาของราคาข้าวก็ตกต่ำ เพราะว่าข้าวประเภทนี้ เป็นข้าวนิ่ม ข้าวเมล็ดสั้น และปลายข้าวชนิดนี้ก็ไปปนกับข้าวพื้นแข็ง พอมีข้าวชนิดพวกนี้เข้ามาเยอะ ก็เลยเป็นปัญหากับราคาข้าวในประเทศไทยมาตลอด
“ผมขอฝากไปยัง รมว.เกษตรและสหกรณ์ ช่วยดูแลว่า ข้าวชนิดนี้เข้ามาได้อย่างไร และมาจดทะเบียนกันได้อย่างไรในการรับเงินเยียวยาจากรัฐบาลไร่ละ 1,000 บาท จริงๆ แล้วกรมการข้าวก็มีพันธุ์ข้าวดีๆ เยอะ ไม่จำเป็นต้องไปเอาพันธุ์ข้าวจากต่างประเทศเข้ามาปลูก” นายบัญชา กล่าว
นายบัญชา กล่าวต่อว่า ในส่วนของพรรคกล้าธรรมก็มีโครงการชะลอการขายไว้ให้อยู่แล้ว เพื่อช่วยแก้ปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ เช่น ข้าว ข้าวโพด มันสําปะหลัง หรือยางพารา โดยโครงการชะลอการขายนี้ รัฐบาลสามารถนำไปใช้ได้ เพราะรัฐบาลนี้ยังไม่มีโครงการอะไรที่จะมารองรับราคาสินค้าเกษตรที่มันตกต่ำ เราก็ยินดีให้นำนโยบายนี้ไปใช้ จะได้บอกประชาชนได้จริงๆ สักทีว่า ประชาชนต้องอยู่ดี และมีเงินใช้จริงๆ.