สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ว่า รายงานที่ถูกถอดออกจากชั้นความลับ ของสำนักอำยนวยการข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือ โอดีเอ็นไอ (The Office of the U.S. Director of National Intelligence : ODNI) เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (29 ต.ค.) ระบุว่า ต้นกำเนิดทางธรรมชาติ และการรั่วไหลออกจากห้องวิจัยทดลอง ต่างก็เป็นสมมติฐานที่เป็นไปได้ สำหรับการติดเชื้อ ซาร์ส-คอฟ-2 ครั้งแรกในมนุษย์ แต่นักวิเคราะห์หลายคนไม่เห็นด้วย ที่จะระบุชัดว่าสิ่งไหน เป็นต้นกำเนิดที่แท้จริง

รายงานยังปฏิเสธทฤษฎีคาดเดาที่ว่า ไวรัสโควิด-19 ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้เป็นอาวุธชีวภาพ เนื่องจากกลุ่มที่เชื่อทฤษฎีนี้ ไม่ได้เข้าถึงสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น ในประเทศจีน โดยตรง และคนกลุ่มนี้ถูกกล่าวหาว่าเผยแพร่ข้อมูลปลอม

รายงานล่าสุด เป็นฉบับปรับปรุง จากรายงานการสอบสวน 90 วัน ที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เผยแพร่ในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ท่ามกลางความขัดแย้งหนักทางการเมืองภายใน เกี่ยวกับความหนักเบาของการกล่าวโทษจีน ต่อการระบาดของดควิด-19 ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก

บางหน่วยงานสายลับของรัฐบาลสหรัฐ สนับสนุนอย่างเต็มที่ ที่จะให้ระบุว่า ไวรัสโควิด-19 มีต้นกำเนิดในธรรมชาติ แม้จะมีหลักฐานยืนยันเล็กน้อย และในช่วงหลายเดือนล่าสุด เชื้อแพร่กระจายในวงกว้าง ในบรรดาสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติ

รายงานของโอดีเอ็นไอ กล่าวว่า หน่วยข่าวกรองสหรัฐ 4 แห่ง และองค์กรเครือข่ายอีกจำนวนมาก “มีความเชื่อมั่นต่ำ” มีต้นกำเนิดจากสัตว์ที่ติดเชื้อ หรือจากไวรัสที่เกี่ยวเนื่อง แต่หน่วยข่าวกรองหนึ่ง “เชื่อมั่นพอประมาณ” ว่า การติดเชื้อโควิด-19 ครั้งแรกในมนุษย์ มีความเป็นไปได้สูงสูงมาก ที่จะเกิดจากอุบัติเหตุในห้องวิจัยทดลอง โดยอาจจะเกิดจากความผิดพลาดในการทดลอง หรือการจัดการสัตว์ โดยสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น

หลายหน่วยข่าวกรองของสหรัฐเชื่อว่า พวกเขาจะไม่สามารถอธิบายได้ชัดเจนมากกว่าเดิม เกี่ยวกับต้นกำเนิดของโควิด-19 หากไม่มีหลักฐานใหม่ ที่แสดงให้เห็นว่าเชื้อไวรัสใช้เส้นทางจำเพาะ จากสัตว์สู่มนุษย์ หรือสถาบันวิจัยอู่ฮั่นกำลังจัดการกับเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ก่อนที่โควิด-19 จะปรากฎ.

เครดิตภาพ – AP, The Heritage Times.
เครดิตคลิป – INQUIRER.net