สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ว่ากระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับการเตรียมปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานของท่าอากาศยาน 7 แห่งในประเทศ รวมถึงสนามบินนานาชาติมูอัน ในจังหวัดช็อลลาใต้ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ซึ่งเกิดโศกนาฏกรรม เครื่องบินโดยสารของสายการบินเจจู แอร์ เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ที่ผ่านมา


ทั้งนี้ แผนการเปลี่ยนแปลงกับโครงสร้างกำแพงคอนกรีตที่ปลายรันเวย์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของระบบ “โลคอลไลเซอร์” เพื่อช่วยนำทางในการลงจอด และการทำงานของระบบล้อลงจอด น่าจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นเดือนนี้ และการอัปเกรดโครงสร้างและระบบทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง น่าจะเสร็จสิ้นภายในปี 2568


สำหรับสาเหตุของการเกิดโศกนาฏกรรมกับเครื่องบินโดยสารของเจจู แอร์ ซึ่งใช้เครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 737-800 ยังไม่เป็นที่ชัดเจนมากนัก โดยทีมงานสืบสวนสอบสวนยังไม่ตัดความเป็นไปได้ในหลายประเด็น


ขณะที่กระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้เพิ่งรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ว่าผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากกล่องดำทั้งสองกล่อง ที่เป็นกล่องบันทึกข้อมูลการบิน และกล่องบันทึกการสนทนา ในห้องนักบินของเที่ยวบิน 7ซี2216 ปรากฏว่า “ไม่มีการบันทึกข้อมูล” ในช่วง 4 นาทีสุดท้าย ก่อนเครื่องบินลำดังกล่าวประสบเหตุสลด


อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเกาหลีใต้ยืนยันว่า การสืบสวนสอบสวนเพื่อค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ จะยังคงดำเนินต่อไป โดยเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลเกาหลีใต้ กับรัฐบาลสหรัฐ และบริษัทโบอิ้ง จนกว่าจะได้คำตอบที่กระจ่าง ว่าเกิดอะไรขึ้นในข่วงเวลาดังกล่าว


ทั้งนี้ เที่ยวบิน 7ซี2216 เดินทางมาจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย มีปลายทางคือ ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ในจังหวัดช็อลลาใต้ ทางตะวันตกเฉียงใต้ โดยเครื่องบินลงจอดด้วยการใช้ส่วนท้องไถลไปกับรันเวย์ แล้วไปชนเข้ากับโครงสร้างคอนกรีต ที่อยู่ปลายรันเวย์ จนเกิดเพลิงลุกไหม้ท่วมทั้งลำ


เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 179 ราย รวมชาวไทย 2 ราย และมีผู้รอดชีวิตเพียง 2 คน ซึ่งเป็นพนักงานต้อนรับ ถือเป็นโศกนาฏกรรมจากเครื่องบินโดยสาร ครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของเกาหลีใต้.

เครดิตภาพ : AFP