สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แถลงสุนทรพจน์ที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ในกรุงวอชิงตัน ซึ่งแน่นอนว่า เป็นการกล่าวอย่างเป็นทางการต่อสาธารณชน เป็นครั้งสุดท้ายก่อนหมดวาระ ในวันที่ 20 ม.ค. นี้ ว่าอเมริกา “แข็งแกร่งขึ้น” และ “เป็นผู้ชนะในทุกการแข่งขัน” เมื่อเทียบกับช่วง 4 ปีก่อนหน้า ซึ่งรัฐบาลวอชิงตันอยู่ภายใต้การบริหารสมัยแรกของนายโดนัลด์ ทรัมป์


ไบเดนกล่าวต่อไปว่า นอกจากสหรัฐแข็งแกร่งขึ้นแล้ว พันธมิตรของสหรัฐเข้มแข็งขึ้นเช่นกัน ในทางกลับกัน คู่แข่งและปรปักษ์ของอเมริกา กลับอ่อนแอลง


ขณะเดียวกัน ไบเดน “ไม่สามารถทอดทิ้งยูเครนได้” และยกย่องตัวเองในฐานะผู้นำสหรัฐคนแรก ซึ่งเดินทางเยือนพื้นที่สงคราม ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้อิทธิพลของทหารอเมริกัน โดยไบเดนเยือนกรุงเคียฟ เมื่อปี 2566 และนับจากนั้น รัฐบาลวอชิงตันเดินหน้ามอบความสนับสนุนทางทหารอย่างมหาศาล ให้แก่ยูเครน เพื่อสู้รบกับรัสเซีย

เกี่ยวกับจีน ไบเดนกล่าวว่า อีกฝ่ายไม่มีทางแซงหน้าสหรัฐได้ และอเมริกาจะยังคงมีอิทธิพลในฐานะ “อภิมหาอำนาจหนึ่งเดียว” ของโลกต่อไป และยอมรับว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีน “ซับซ้อน” แต่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมกันบริหารจัดการความสัมพันธ์อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้บานปลายกลายเป็นความขัดแย้งทางอาวุธ


ด้านสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ไบเดนยืนยันว่า ข้อตกลงหยุดยิง “อยู่ในขั้นสุดท้าย” และเชื่อว่า ประวัติศาสตร์จะจดจำ

อนึ่ง หลายฝ่ายมองว่า ผู้นำสหรัฐพยายามเร่งเร้าให้การเจรจาได้ข้อสรุป ก่อนที่ตัวเองจะหมดวาระ เพื่อหวังผลทางการเมืองด้วย ว่าเป็น “ความสำเร็จสุดท้าย” ก่อนลงจากตำแหน่ง.

เครดิตภาพ : AFP