เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 68 มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Sonthi Kotchawat” หรือ ดร.สนธิ คชวัฒน์ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้ออกมาโพสต์ถึงเรื่องฝุ่น PM 2.5 โดยระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้ฝุ่น PM 2.5 มีค่าสูงหรือต่ำในพื้นที่ใดๆ …หากมีครบรับรองฝุ่นสูงแน่นอน

จากการทดลองในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าฝุ่น PM 2.5 จะสูงหรือจะต่ำขึ้นอยู่กับ องค์ประกอบต่างๆ เช่น ปริมาณฝุ่น PM2.5 จากแหล่งกำเนิดบนผิวโลก, ความเร็วลมในอากาศ, ความชื้นสัมพัทธ์ และอุณหภูมิในบรรยากาศ

1.ฝุ่น PM 2.5 เกิดจากแหล่งกำเนิดต่างๆ ที่สำคัญคือ การ เผาไหม้ของแก๊สโซลีน, น้ำมันดีเซล การเผาไม้ตอซัง ฟางข้าวและวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร รวมทั้งการเผาสิ่งต่างๆ ในที่โล่ง เช่น ไฟไหม้ป่า เป็นต้น
2.ฝุ่น PM2.5 จะสัมพันธ์กับอุณหภูมิในบรรยากาศ หากอุณหภูมิต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียส และมีมวลอากาศเย็นมาปกคลุมผิวดิน ฝุ่นจะมีค่าสูงขึ้น
3.ความเร็วลมที่พัดในแนวราบ หากต่ำกว่า 3 เมตรต่อวินาที หรือ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะมีโอกาสที่จะทำให้ฝุ่น 2.5 รุนแรงขึ้น
4.ฝุ่น PM2.5 มีความสัมพันธ์กับความชื้นในบรรยากาศ ฝุ่น PM 2.5 จะมีค่าสูงขึ้นเมื่อความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศอยู่ในช่วงระ หว่าง 50-84% และฝุ่น PM 2.5 จะมีค่าต่ำลงหากความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศอยู่ในช่วงระหว่าง 30 ถึง 50% ความชื้นสัมพัทธ์จะจับฝุ่นไว้และตกลงมา

ดังนั้นปัจจัยที่จะทำให้ฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ต่างๆ สูงมากคือ ปริมาณมลพิษจากแหล่งกำเนิดที่มีจำนวนมาก, อุณหภูมิในพื้นที่ดังกล่าวต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียส ประกอบกับมีความเร็วลมในแนวราบต่ำกว่า 3 เมตรต่อวินาที หรือ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รวมทั้งมีค่าความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ ตั้งแต่ 50% ขึ้นไป หากองค์ประกอบดังกล่าวครบ ก็จะทำให้ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ดังกล่าวมีค่าสูงมาก….