เมื่อวันที่ 15 ม.ค. นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข สส.ตาก เขต 3 พรรคกล้าธรรม (กธ.) กล่าวว่า ภาพลักษณ์ของจังหวัดตาก ปัจจุบันตรงพื้นที่ชายแดน 5 อำเภอ ได้แก่ อ.อุ้มผาง อ.พบพระ อ.แม่สอด อ.แม่ระมาด อ.ท่าสองยาง โดยเฉพาะ อ.แม่สอด มีข่าวปรากฏตามสื่อมวลชนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพวกกลุ่มจีนเทา พวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กาสิโน และบุคคลสัญชาติจีนที่โดนหลอกไปค้ามนุษย์ อยู่ฝั่งประเทศชายแดนประเทศเมียนมา ทำให้จังหวัดตากเสียหายเป็นอย่างมาก

“ที่ผ่านมา ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้ระดมหน่วยงานทุกหน่วยงาน ตั้งแต่ท่านผู้ว่าฯ คนเก่าที่เกษียณไป จนคนใหม่ที่รับตำแหน่งมาก็ได้มีการสั่งการผ่านศูนย์สั่งการชายแดนกับประเทศเมียนมาของจังหวัดตากอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานตำรวจ ผู้บัญชาการ ภาค 6 แม่ทัพภาค 3 ที่ช่วยระดมความคิด แก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง แต่ภาพที่ออกมาทำให้มีความเลวร้ายเป็นอย่างมาก ตอนนี้นักลงทุนก็หาย นักท่องเที่ยวก็ไม่มาเที่ยว ผมอยากจะให้ทางรัฐบาลช่วยแก้ไขเป็นภาพรวมของประเทศ” นายภาคภูมิ กล่าว

นายภาคภูมิ กล่าวต่อว่า กระทรวงการต่างประเทศควรไปเจรจากับกระทรวงต่างประเทศของประเทศเมียนมาให้ชัดเจนว่า การข้ามแดนจากไทยไปประเทศเมียนมา โดยเฉพาะบุคคลต่างชาติ จะเข้าหรือจะออกตรงไหนได้ ขอให้ลดความเข้มงวด อย่าไปเคร่งครัดมาก เพื่อจะให้เขาเข้าให้อย่างถูกกฎหมาย ไม่เช่นนั้นก็จะมีการลักลอบอยู่ตลอด เพราะปฏิเสธไม่ได้ จังหวัดตาก ชายแดนทั้งหมด 500 กว่ากิโลเมตร เดินข้ามได้ทุกจุด ทุกเวลา ถึงแม้จะมีหน่วยงานความมั่นคงที่ตรวจตรา ตำรวจ ทหาร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง แต่ก็ยังลักลอบได้ตลอด

“ผมขอฝากไปถึงสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวก็อยากจะให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เพราะอาจจะทำให้ประชาชนแตกตื่น หวาดกลัวได้ แต่สำหรับคนตากเราอยู่ได้ เรามั่นใจในศักยภาพของเรา จริงๆ จังหวัดตาก เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่จะส่งออกสินค้าไปยังประเทศเอเชียและยุโรป แต่พอมีข่าวแบบนี้ขึ้นมา นักท่องเที่ยวก็หาย นักลงทุนก็ไม่มี ขอให้รัฐบาลช่วยแก้ไขเรื่องนี้ด้วย ไม่ใช่มัวแต่สั่งการเจ้าหน้าที่ เพราะเขาทำเต็มที่อยู่แล้ว แต่ท่านต้องเกื้อหนุนปัจจัยเสริมทุกอย่างให้เขาด้วย” นายภาคภูมิ กล่าว.