เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่าชาวเน็ตจีน ระบุว่าไทยกำลังจะตัดไฟฟ้าในนิคมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมสนับสนุนให้ไทยเร่งดำเนินการว่า เรื่องนี้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ซึ่งได้รับนโยบายนายกรัฐมนตรีผ่านตนไปแล้วว่า การฟีดไฟฟ้าไปแล้วเจอพวกสแกม ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ก็ต้องตัดไฟฟ้า แต่ที่ผ่านมาต้องแยกเรื่องให้ถูก ที่เราขายไฟฟ้าไปให้ประเทศเพื่อนบ้าน มีตัวแทนรัฐบาลที่ประเทศเพื่อนบ้าน กระทรวงการต่างประเทศ หน่วยงานความมั่นคง และสภาความมั่นคงแห่งชาติต้องรับรอง

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ กฟภ. ต้องขายไฟฟ้าตามการรับรองนั้น แต่ถ้าการกระทำความผิดนี้ เกิดขึ้นหลังจากไฟฟ้านี้ได้ข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และเกิดการขายทอดต่อไป 2-3 ต่อ จนไปถึงพวกสแกม หรือพวกผลิตยาเสพติด ตรงนี้เขาต้องไปดำเนินการของเขาเอง แต่ยืนยันได้ว่า กฟภ. หรือการไฟฟ่านครหลวง (กฟน.) ไม่มีการทำสัญญาโดยตรง และไม่มีการที่จะไปลากสายไฟฟ้าแล้วนำไปใช้ให้กับผู้ก่อการร้ายผิดกฎหมายข้ามแดนแน่นอน ตนยืนยันว่าไม่ต้องตัดสินใจอะไร ซึ่งเรื่องนี้ไม่สามารถขายไฟฟ้าตรงได้ เพราะต้องมีรัฐบาลของประเทศเพื่อนบ้านรับรอง

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ต้องฝาก เพราะได้พูดกันบ่อย ๆ ในสภา อย่าเอากันสนุก ทำให้ประชาชนหวั่นไหวอยู่เรื่อย จริง ๆ มันไม่ได้หรอก ประชาชนจะต้องได้รับข่าวที่เป็นข้อเท็จจริง ซึ่งรัฐบาลก็ต้องเอาข่าวดีให้กับประชาชนได้มากที่สุด

นายอนุทิน เปิดเผยด้วยว่า ตนเคยถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์เข้ามาหลอกลวง โดยอ้างว่าเงินในบัตรเครดิตเต็มวงเงิน ให้เติมวงเงิน ซึ่งตนเห็นว่าเสียงเพราะดี แต่คนที่โทรฯ มาไม่รู้ว่าตนเป็นรองนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ได้พูดคุยด้วยประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งใครโทรฯ มาหา ตนก็คุยด้วยหมด