เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ร.ต.อ.เนวิน สุนทวนิค รอง สว.(สอบสวน) สภ.ห้วยใหญ่ ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ ภายในบ้านเลขที่ 189/113 ของหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่ง ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยมีทรัพย์สินสูญหายไปหลายรายการ รวมมูลค่าร้อยล้านบาท จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรีบไปทำการตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน 2 ชลบุรี

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ปลูกในเนื้อที่ประมาณ 80 ตารางวา มูลค่านับสิบล้านบาท จากการตรวจสอบที่บริเวณห้องนอน พบว่า ภายในห้องดังกล่าวคนร้ายได้เข้ามางัดตู้เซฟ ขนาดความกว้าง 1 เมตร สูง 1.50 เมตร ภายในพบกล่องนาฬิกาเปล่า ประมาณ 8 กล่อง วางกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ นอกจากนี้ยังพบว่าที่กระจกหน้าต่างด้านหลังถูกงัดจนหลุด จึงทำการตรวจสอบและเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้าย

สอบถามนายหยูเฉา เชา อายุ 43 ปี ชาวจีน และเป็นคนดูแลบ้านหลังดังกล่าว ให้การกับตำรวจในอาการตื่นตระหนกว่า ตนเองเป็นเพื่อนกับเจ้าของบ้าน ชื่อว่า นายหวัง เหลียง เฉิน อายุ 39 ปี ชาวจีนเหมือนกัน และเป็นนักธุรกิจเกี่ยวกับบริษัททัวร์ในประเทศไทย แต่ปัจจุบันเจ้าตัวเดินทางกลับประเทศจีน ตนเองมาอยู่บ้านหลังดังกล่าว เพื่อคอยดูแลบ้านให้

โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อวานนี้ ตนเองและครอบครัว ออกไปทำธุระด้านนอก พอกลับเข้ามาก็ต้องตกใจ เมื่อพบว่าหน้าต่างด้านหลังบ้านถูกงัด ขึ้นไปดูห้องพักชั้นสอง ก็พบว่าตู้เซฟของเจ้าของบ้านถูกคนร้ายงัดจนพังเสียหาย และไม่ทราบว่าในตู้เซฟมีทรัพย์สินอะไรบ้าง ที่เห็นคือกล่องนาฬิกาข้อมือถูกวางกระจัดกระจาย โดยเหลือแต่กล่องนาฬิกา แต่ไม่พบตัวเรือนนาฬิกาข้อมือแม้แต่เรือนเดียว

ขณะที่นายสมบูรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี เป็นหุ้นส่วนกับ นายหวัง เหลียง เฉิน ให้การกับตำรวจในเบื้องต้นว่า ตนเองเป็นเพื่อนกับเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว โดยร่วมกันลงทุนทำธุรกิจเกี่ยวกับบริษัททัวร์ในประเทศไทย แต่ปัจจุบันเจ้าของบ้านได้เดินทางกลับไปที่ประเทศจีน และยังไม่สามารถเดินทางกลับมาประเทศไทยได้ เนื่องจากมีคดีฟ้องร้องอยู่ที่ประเทศจีน เจ้าของบ้านจึงให้เพื่อนชาวจีนมาอยู่บ้านหลังนี้เพื่อคอยดูแลบ้านแทน ซึ่งภายหลังเกิดเหตุ ตนเองได้มีการพูดคุยกับเจ้าของบ้าน เบื้องต้นทราบว่า ทรัพย์สินที่อยู่ภายในตู้เซฟ ส่วนใหญ่จะมีแต่นาฬิกา ยี่ห้อแบรนด์ดังๆ รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ซึ่งถูกคนร้ายขโมยไปจนเกลี้ยง

ในเบื้องต้น ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ ได้ร่วมกันลงพื้นที่เก็บหลักฐานอย่างละเอียด รวมถึงนำหลักฐานสำคัญซึ่งเป็นกล้องวงจรปิดซึ่งติดตั้งอยู่ภายในบ้านไปทำการตรวจสอบเพื่อหาเบาะแสคนร้าย นอกจากนี้ยังมีการเชิญตัว นายหยูเฉา เชา คนดูแลบ้าน ไปทำการสอบปากคำ เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมทั้งประสานไปยังเจ้าของบ้านที่อยู่ประเทศจีน เพื่อสรุปจำนวนทรัพย์สินที่อยู่ภายในตู้เซฟ ว่ามีตามจำนวนที่แจ้งไว้ในเบื้องต้นจริงหรือไม่

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับ รปภ. ของหมู่บ้าน ให้ข้อมูลว่า หมู่บ้านดังกล่าว แค่บ้านชั้นเดียวก็มูลค่าไม่ต่ำกว่า 7 ล้านบาท แต่หากเป็นบ้าน 2 ชั้นรวมสระว่ายน้ำ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ส่วนใหญ่แล้วหมู่บ้านแห่งนี้ เจ้าของบ้านจะเป็นคนจีน โดยจะมีคนจีนเข้าออกตลอดเวลา ส่วนการก่อเหตุในครั้งนี้ไม่ทราบว่าคนร้ายเข้ามาทางไหน หรืออาจจะปีนขึ้นกำแพงเข้าจากทางด้านหลัง ซึ่งด้านหลังจะเป็นป่าเกือบทั้งหมด.