จากกรณีบนโลกออนไลน์ มีการแชร์เรื่องราวของรถเก๋งสีดำ ขับมาตระเวนขายผ้าใบ และจะจับเด็กตามหมู่บ้าน ในพื้นที่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ จนทำให้ประชาชน ชาวบ้านแตกตื่น และกลัวกันมาก นั้น

ล่าสุด เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 68 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ไปที่บ้านกระต่ายน้อย ต.สมอ อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของเจ้าของรถเก๋งที่มีการนำไปแชร์ว่าเป็นรถเก๋งลักเด็ก โดย นายภูผา พงษ์สุระ อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของรถเก๋งคันที่ถูกกล่าวอ้าง ได้เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพขายผ้าใบ ซึ่งตนจะขับรถออกตระเวนไปขายผ้าใบตามหมู่บ้านต่างๆ เมื่อเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา มีคนถ่ายภาพรถเก๋งของตน และนำไปโพสต์ลงในโซเชียล ว่ารถตนเป็นรถจับเด็ก ที่กำลังเข้ามาในเขต อ.ขุขันธ์ ซึ่งทำให้ตนเสียหาย เพราะตนประกอบอาชีพขายผ้าใบเป็นหลักในการหารายได้ พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ทำให้ตนขายผ้าใบไม่ได้เลย ปกติตนจะขายผ้าใบได้วันละ 20 กว่าผืน พอเกิดเหตุนี้ขึ้น ตอนนี้ขายได้แค่วันละ 7-8 ผืน บางวันก็ขายไม่ได้เลย

นายภูผา กล่าวต่อไปว่า กระแสที่ว่ามีรถจับเด็ก ตนคิดว่าในพื้นที่ศรีสะเกษ ยังไม่มี คงเป็นแค่กระแสทางโซเชียลเฉยๆ บางคนที่โพสต์อยากได้ยอดวิว ถ้าตนเห็นว่ามีคนลงภาพรถยนต์ของตนอีก ตนจะแจ้งจับ เพราะตอนนี้ตนทำมาหากินไม่ได้เลย อยากขอร้อง ถ้าไม่เป็นความจริงอย่านำไปลงเลย ให้ตรวจสอบหรือสอบถามข้อเท็จจริงเสียก่อน ขณะที่เมื่อวาน 15 ม.ค. ตนได้เข้าไปที่ สภ. เพื่อแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน และจะดำเนินคดีกับคนที่โพสต์ให้ถึงที่สุด ที่ทำให้ตนเสียหาย

ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ขุขันธ์ ได้ทำการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว พบว่าในพื้นที่ไม่มีเหตุลักเด็กเกิดขึ้นแต่อย่างใด เรื่องดังกล่าวเกิดจากการเข้าใจผิดของผู้โพสต์ และผู้โพสต์ได้ขอโทษเจ้าของรถที่ปรากฏในข่าวและได้ลบโพสต์แล้ว.