นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า สถานการณ์เดินทางเข้าไทยของนักท่องเที่ยวจีน ขณะนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ทั้ง 5 สำนักงานในจีน ทำการบ้านอย่างหนัก ส่วนนักท่องเที่ยวจีนที่ยกเลิกเดินทางเที่ยวไทย ส่วนมากเป็นนักท่องเที่ยวที่ไม่เคยมาไทย โดยเฉพาะจากเมืองรองของจีน ส่วนการจองเข้ามาของนักท่องเที่ยวที่เคยมาอยู่แล้วและเป็นกลุ่มครอบครัว เพื่อนกัน หรือมาเที่ยวด้วยตัวเอง ไม่ได้ถูกยกเลิก
ทั้งนี้ จากตัวเลขที่ได้รับรายงานล่าสุด ระหว่างวันที่ 15-16 ม.ค. 68 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยวันละ 20,000 กว่าคน จากปกติเฉลี่ยวันละ 16,000-17,000 คน สะท้อนว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนไม่ได้ลดลง แต่ที่นายกฯ เรียกประชุมเพราะกลัวสถานการณ์จะบานปลาย จนกระทบกับการท่องเที่ยว โดยส่วนตัวกระทรวงท่องเที่ยวฯ ได้มอนิเตอร์ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเที่ยวไทยตั้งแต่วันที่ 1-16 ม.ค. 68 มีจำนวน 1.7ล้านคน สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วเกือบ 20%
“จริงๆ แล้วก่อนตรุษจีนที่จะถึงนี้ ได้ประสานไปยังสถานทูตจีนและพูดคุยกันมาโดยตลอด ขอเน้นย้ำอีกทีว่า แต่ละกรณีที่ผ่านมา ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจท่องเที่ยว ได้มีการติดตามตัวผู้ที่ได้รับผลกระทบ ที่ผ่านมาไม่ใช่นักท่องเที่ยว มีการหลอกมาทำงาน ซึ่งประเทศไทยเป็นทางผ่าน ไม่ใช่มาเที่ยวประเทศไทย แล้วถูกหลอกหรือถูกจับตัว เป็นการถูกหลอกมาทำงานทั้งสิ้น ไม่ใช่นักท่องเที่ยวเลย นายกฯ ก็ได้เน้นย้ำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารบก ให้ดูแลพื้นที่ และด่านธรรมชาติต่างๆ การเข้าออกในพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะ จ.ตาก ให้ดูแลเข้มงวด รวมไปทั้ง ตม. ตำรวจตระเวนชายแดนด้วย” นายสรวงศ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายค้านได้วิจารณ์ว่าไทยต้องการเป็นฮับของอาเซียน แต่ตอนนี้กลายเป็นฮับของอาชญากรรมข้ามชาติไปแล้ว นายสรวงศ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ ผมขอพูดคำเดิม เอาที่สบายใจ สิ่งต่างๆ ที่พูดออกมา เป็นผลกระทบต่อประเทศชาติทั้งนั้น ถ้าเราตัดมุมมองทางการเมืองออกไปทุกคน โดยเฉพาะสื่อมวลชน หรือคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล จริงๆ แล้วเรื่องการสร้างภาพลักษณ์ของประเทศให้เกิดความมั่นใจ ทุกคนควรให้ความร่วมมือ