เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 18 ม.ค. ที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดซื้อเรือฟริเกต จำนวน 2 ลำ ในปีงบประมาณ 2569 ว่า ขณะนี้อยู่ในห้วงของการตั้งของงบประมาณ ซึ่งเป็นงบที่สูงกว่า 1,000 ล้านบาท จึงต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอให้รัฐบาลอนุมัติ ก่อนจะเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง ซึ่งเรื่องน่าจะอยู่ที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ว่าจะพิจารณาอย่างไร หากมีข้อสงสัย ตนจะต้องเข้าไปชี้แจงเพิ่มเติม ซึ่งทาง รมว.กลาโหม บอกว่าหากทางเหล่าทัพมีเหตุผลที่ชัดเจนก็พร้อมที่จะสนับสนุน ซึ่งตนบอกว่าคงไม่เพียงแค่รัฐบาล ประชาชนก็คงเห็นด้วย เพื่อให้กองทัพเรือมีกำลังทางเรือ ดูแลอธิปไตยทางน้ำ ซึ่งต้องยอมรับว่าปัจจุบันกำลังทางเรือถดถอยลงทุกปี หากไม่จัดหาเพิ่มเติม ก็จะไม่ได้รับความเกรงใจจากประเทศเพื่อนบ้าน
เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะผ่านในขั้นตอนต่างๆ ของทางรัฐสภา ผบ.ทร. กล่าวว่า ก็ขึ้นอยู่กับว่า แต่ละท่านจะเข้าใจบทบาท หน้าที่ของกองทัพเรือเพียงใด ในมุมมองของกองทัพเรือ พยายามอธิบายให้ทุกท่านได้เข้าใจ และเชื่อมั่นว่าสุดท้ายแล้วก็น่าจะผ่าน
เมื่อถามถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาเรื่องเรือดำน้ำขาดเครื่องยนต์ ผบ.ทร. กล่าวว่า ขณะนี้เรื่องต่างๆ พ้นจากอำนาจของกองทัพเรือไปแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับ รมว.กลาโหม หากยังสงสัยในประเด็นใด เราก็พร้อมจะสนับสนุนข้อมูลในทุกเรื่อง รวมถึงการสอบถามข้อมูลหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกด้าน ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้ขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าจะตัดสินใจอย่างไร
เมื่อถามต่อว่าทางออกที่ดีที่สุดควรจะเป็นอย่างไร เพราะเวลาล่วงเลยมาพอสมควร ทำให้ตัวเรือดำน้ำเก่าและเทคโนโลยีล้าสมัย ผบ.ทร. กล่าวว่า ตนตัดสินใจแทน รมว.กลาโหม ไม่ได้ กองทัพเรือยังยืนยันความต้องการเดิม การมีเรือดำน้ำอยู่ในแผน แต่เมื่อแผนการจัดหาล่าช้าออกไป ก็ไปกระทบกับแผนจัดหาเรืออื่นๆ ซึ่งปัจจุบันความต้องการของเรารวนอยู่ ก็ต้องมาดูว่าจะสามารถจัดระบบอย่างไรให้ลงตัว.