สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ว่า องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก ( ดับเบิลยูเอ็มโอ ) เผยแพร่รายงานว่าด้วย “สถานะอากาศโลก” ประจำปีนี้ โดยอาศัยข้อมูลจากตลอด 9 เดือนแรกของปีนี้ มีเนื้อหาสำคัญว่า ปริมาณก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศโลกที่ยังคงเพิ่มขึ้น ในเวลาเดียวกับอุณหภูมิโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กำลังทำให้โลกเผชิญกับ “ภาวะไร้การควบคุม”


ทั้งนี้ ระดับน้ำทะเลบนโลกเพิ่มขึ้นในอัตราเร่งตั้งแต่ปี 2556 จนทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ในปีนี้ ร่วมด้วยปรากฏการณ์ทะเลเป็นกรดและมีอุณหภูมิสูงขึ้น ขณะที่ปรากฏการณ์ลานีญา เมื่อช่วงต้นปีนี้ ทำให้ 2564 เป็นปีที่ร้อนที่สุดอันดับ 5 ในรอบ 7 ปีล่าสุด แต่ไม่ได้หมายความว่า ภาวะที่เกิดขึ้นจะสามารถปรับเปลี่ยนแนวโน้มการเพิ่มสูงขึ้นในระยะยาวของอุณหภูมิโลกได้


นอกจากนี้ อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกในรอบ 20 ปีล่าสุด นับตั้งแต่ปี 2545 กำลังจะเพิ่มขึ้นเกินกว่า 1.0 องศาเซลเซียส เป็นครั้งแรกเมื่อเทียบกับยุคก่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรม สังเกตได้ชัดเจน จากการที่ภูมิภาคกรีนแลนด์มีฝนตกมากกว่าหิมะตกเป็นครั้งแรก อิทธิพลจากคลื่นความร้อนส่งผลให้บางพื้นที่ในแคนาดามีอุณหภูมิสูงกว่าสหรัฐ โดยอุณหภูมิในรัฐบริติชโคลัมเบีย ของแคนาดาสูงถึง 50 องศาเซลเซียส ตรงข้ามกับรัฐเทกซัสที่เผชิญกับอากาศหนาว

เด็กเข้าร่วมการเคลื่อนไหวเรียกร้องการเพิ่มความร่วมมือระหว่างประเทศ ในการแก้ไขปัญหาโลกร้อน ใกล้กับดาวนิงสตรีท ในกรุงลอนดอน


ส่วนทวีปยุโรปและจีนเผชิญกับน้ำท่วมหนัก ในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบหลายทศวรรษ และภาวะแล้งจัดในทวีปอเมริกาใต้ส่งผลกระทบต่อทิศทางการไหลของกระแสน้ำ และระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักของภูมิภาค


อนึ่ง รายงานฉบับนี้ได้รับการเผยแพร่ในช่วงที่การประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามกรอบของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ( ยูเอ็นเอฟซีซีซี ) ครั้งที่ 26 หรือ “คอป 26” กำลังดำเนินอยู่ ที่เมืองกลาโกว์ ในสกอตแลนด์ ตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 12 พ.ย.นี้.

เครดิตภาพ : AP