เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มี น.ส.เอ (นามสมมุติ) ภรรยาชาวต่างชาติ เข้าร้องเรียนผ่านมูลนิธิเป็นหนึ่ง ว่า ถูกพระอายุ 59 ปี เจ้าของสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งที่จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งทราบต่อว่าเป็นเพียงสถานปฏิบัติธรรม ไม่ใช่สำนักสงฆ์ตามคำกล่าวอ้าง อยู่ในพื้นที่ ต.ลุมปุ๊ก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ข่มขืนกระทำชำเรา เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ที่ผ่านมา ระหว่างมาปฏิบัติธรรมที่สำนักสงฆ์

ต่อมา น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง มูลนิธิเป็นหนึ่ง เดินทางมาตรวจสอบข้อเท็จจริง จนทราบในเชิงลึกจากภรรยาชาวต่างชาติ และหลักฐานประกอบ เช่น กล้องวงจรปิดที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง และคลิปที่ฝ่ายหญิงแอบถ่าย ซึ่งมีข้อความว่า “ไม่ท้องหรอก” จึงเชื่อได้ว่าพระรูปดังกล่าว ได้กระทำการตามที่ร้องเรียนจริง

จากนั้นต้นอ้อ ได้ประสานสำนักพุทธ, ตัวแทนคณะสงฆ์โดยพระครูปทุมธรรมานุรักษ์ รองเจ้าคณะอำเภอเมืองบุรีรัมย์, กอ.รมน. และตำรวจ สภ.หนองสองห้อง อ.เมือง เพื่อเข้าตรวจสอบร่วมกัน และเดินทางไปที่สถานปฏิบัติธรรม พบเป็นสถานที่เอกชนก่อสร้างคล้ายกุฏิพระ เนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ พบพระที่ถูกกล่าวหา และญาติๆ ของพระ มาร่วมตั้งเก้าอี้เจรจาพูดคุยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าเป็นจริงหรือไม่

โดยพระรูปดังกล่าว ตอบโต้ทุกข้อกล่าวหาว่าไม่ได้มีการล่วงละเมิด ยอมรับว่าไปรับที่สนามบินจริง เพราะไม่รู้เส้นทาง โดยทาง ต้นอ้อ พยายายามถามหลายครั้ง ถึงกรณีคลิปที่หญิงสาวแอบถ่าย ซึ่งมีคำหนึ่ง พระพูดย้ำว่า “ไม่ท้องหรอกเชื่อดิ” แต่พระที่ถูกกล่าวหายังปฏิเสธ

กระทั่งต้นอ้อ ได้ภาพวงจรปิดจากรีสอร์ท ซึ่งเป็นภาพที่พระรูปดังกล่าว ขณะสวมใส่ชุดฆราวาสเดินทางมาพร้อมกับ น.ส.เอ เข้าไปในห้องประมาณ 30 นาที ก่อนพระขับรถออกไป ทำให้ยอมจำนนต่อหลักฐาน แล้วยอมสึกพ้นจากความเป็นพระทันที

พระครูปริยัติธรรมนิเทศ เลขานุการเจ้าคณะอำเภอเมืองบุรีรัมย์ กล่าวว่า จากการสอบถามพระที่ถูกกล่าวหา ที่พยายามเลี่ยงทุกประตู จึงแจ้งไปว่า พร้อมให้ความเป็นธรรม กระทั่งมีคลิปโผล่ออกมาจึงจำเป็นต้องสึก ส่วนสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ จะต้องสั่งปิดเป็นการถาวร เพราะไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องจากสำนักพุทธ

น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง กล่าวว่า จริงๆ แล้ว ตนได้หลักฐานวงจรปิดมาก่อนที่จะมาตรวจสอบที่สถานปฏิบัติธรรมแล้ว แต่อยากรู้ว่าพระที่มีพฤติกรรมดังกล่าว จะแก้ข้อกล่าวหาอย่างไร หลังจากนี้ต้องปล่อยให้กระบวนการทางกฎหมายดำเนินการต่อไป

สำหรับไทม์ไลน์กรณีนี้ น.ส.เอ เดินทางมาถึงที่บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 13 ม.ค. เวลาประมาณ 21.00 น. พระที่ถูกกล่าวหา ใส่สูทขับรถหรูไปรับที่สนามบิน แล้วขับรถไปเปิดรีสอร์ทพัก ในคืนนั้นพระพยายามลวนลาม แต่หญิงสาวไม่ยอม ผ่านไปประมาณ 30 นาที พระจึงกลับออกไป

วันที่ 14 ม.ค. พระส่งคนมารับที่รีสอร์ท ไปที่สถานปฏิบัติธรรม แล้วสัญญาว่าจะไม่ก่อเหตุลักษณะดังกล่าวอีก น.ส.เอ จึงนอนที่สถานปฏิบัติธรรมในคืนวันที่ 14 ม.ค. โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งวันที่ 15 ม.ค. เวลาประมาณ 21.00 น. พระได้เข้าไปหาที่พักของ น.ส.เอ แล้วกระทำการล่วงละเมิดดังกล่าว ก่อนจะมีคลิปการพูดคุยและมีคำว่า “ไม่ท้องหรอก” ออกมา จนทำให้ต้องสึกดังกล่าว