ความเคลื่อนไหวของ “อดีตนายกฯ แม้ว” นายทักษิณ ชินวัตร ยังเป็นที่น่าสนใจอยู่ตลอด เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ก็ได้เดินทางไปหาเสียงช่วยนายอนุชิต หงษาดี ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครพนม ของพรรคเพื่อไทย ซึ่ง เจ้าตัวเชื่อมั่นว่ากวาดเก้าอี้นายก อบจ. ได้หลายจังหวัด อดีตนายกฯ แม้ว ขึ้นเวทีพูดหลายเรื่อง อาทิ บอกว่า บ้านเมืองนี้ หลังจากที่ตนออกไปก็ขาดการบริหารอย่างมีเป้าหมายไปเยอะ เหมือนการบริหารที่ไม่บริหาร บ้านเมืองจึงแย่ไปหลายจุด

“ขอกลับมารับใช้ประชาชน ทำให้บ้านเมืองเราน่าอยู่ รัฐบาลพยายามปรับโครงสร้างหนี้ ช่วยประชาชนด้วยการทำโครงการบ้านเพื่อคนไทย เฟสแรก 4.7 พันยูนิต แต่คนลงทะเบียนรับสิทธิ 23 ล้านคน เราตั้งใจทำ 1 ล้านยูนิต แต่ก็ยังไม่พอ เพราะคนไม่มีบ้านกว่า 5.8 ล้านครอบครัว ซึ่งก็ต้องช่วยกันดูว่า พื้นที่ตรงไหนที่จะมาทำได้อีก ปัญหาที่ต้องแก้ไขอีกอย่างคือพนันออนไลน์ จากที่ตรวจสอบ วันหนึ่งมีคนเล่นพนันออนไลน์อย่างน้อย 2.5 ล้านคน บางวัน 4 ล้านคน จากนี้เราจะเอาขึ้นมาบนดินให้รัฐสามารถเก็บภาษีได้ อายุต่ำกว่า 20 ปีก็จะไม่ให้เล่น ใครเล่นจนติดหนักก็จัดส่งไปบำบัดให้หาย รัฐบาลจะเอาหวยออนไลน์ที่อยู่ใต้ดินขึ้นมาบนดิน ควบคุมให้ถูกต้อง”
“สำหรับเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ เราจะทำให้เหมือนลาสเวกัส ที่เป็นสถานที่หนึ่งสถานที่มีโรงแรมเป็น 1,000 ห้อง มีคอนเสิร์ต มีสนามกีฬา มีหอประชุม มีการจัดงานสารพัด อยากมีสวนน้ำ และมีบางคนจะเสนอแม้กระทั่งจะสร้างที่เล่นสกี สร้างหิมะเทียมให้เล่นสกีได้ และพื้นที่ไม่ถึง 10% จะเป็นพื้นที่กาสิโนเหมือนสิงคโปร์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้เงินมาเที่ยว แต่ละแห่งจะมีการจ้างงาน 20,000 คน และเงินเดือนไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท สอบถามประชาชนแล้ว คนค้านน้อยมาก”

ในการปราศรัยเวทีที่สอง อดีตนายกฯ แม้ว กล่าวตอนหนึ่งว่า เรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขนาด “นายกฯ อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ยังถูกหลอก ใช้เอไอทำเสียงเป็นโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ให้นายกฯ โอนเงินไปที่ฮ่องกง มันเล่นทุกรูปแบบ วันนี้กระบวนการใหญ่อยู่ที่เมียนมากับที่เขมร เขมรให้ความร่วมมือดี เดี๋ยวจะเบาบางลง เมียนมาก็น่าจะจบ เพื่อนบ้านจะไม่มีพวกที่ทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฉะนั้น ปีนี้ต้องเอาให้จบ
“ส่วนเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ต่อไปนี้ จะจริงจังในการคัดเลือกคน โดยจะให้มหาวิทยาลัยเป็นแกนนำร่วม อบจ. เพื่อคัดคนที่อยากเพิ่มความชำนาญให้ตนเอง เพื่อเป็นอาชีพและมีรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่าแรงงานขั้นต่ำ ได้ประชุมกับ “หมอเลี๊ยบ” นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ว่าจะคัดคนสวยแบบธรรมชาติไม่ต้องศัลยกรรม เพื่อให้มีโอกาสเท่าเทียมกัน ใครอยากเป็นนางแบบระดับโลกก็จะคัดมาฝึก
นพ.สุรพงษ์ บอกว่าอยากได้งบกลาง 20 ล้านบาท จึงบอกว่าเดี๋ยวออกให้เอง จะหาสปอนเซอร์มาช่วย แต่ทุกคนต้องเป็นแมวมองผ่านกองทุนหมู่บ้าน ไม่จำกัดเพศจะเป็น ชาย หญิง หรือเพศที่ 3 หากดูแล้วเหมาะที่จะเดินแบบได้ก็ไปฝึก แต่อย่าเพิ่งทำศัลยกรรม เราอยากได้คนที่มีความงามแบบไทยแท้ ปนเจ๊ก ปนแขก ปนลาวก็ได้ ไม่ว่ากัน แต่ต้องงามแบบออริจินัล แบบที่ออกมาจากท้องแม่ เพราะในโลกคงอยากเห็นคนไทยแท้เป็นอย่างไร ถ้าบุคลิกดีเดินแบบได้ แป๊บเดียว ก็มีโอกาสทำเงินได้เป็นล้านๆ เรียนหนังสือไม่เก่งไม่เป็นไร แต่ขอคนที่ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน

วันที่ 8-10 ก.พ. นาโอมิ แคมป์เบลล์ นางแบบระดับโลก (ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งรายการ The Face) จะเดินทางมาที่ประเทศไทย ก็ จะมาคุยกับผมว่าจะทำอย่างไรให้คนไทยได้เป็นนางแบบระดับโลกได้” อดีตนายกฯ กล่าวและว่า ตนเองมีของดีและว่า อีกสักปีหน้าตนจะหนุ่มกว่าเดิมกว่าเดิม เพราะเดี๋ยวนี้มีเทคโนโลยีใหม่ที่เขาให้คนแก่หนุ่มขึ้น มีวิธีรักษาอวัยวะข้างในโดยการเติมสเต็มเซลล์ที่เป็นสเต็มเซลล์ของตัวเราเอาไปทำเอาให้เป็นสเต็มเซลล์เหมือนตอนเกิด และใส่เข้าไปจะซ่อมสิ่งที่สึกหรอในร่างกายร่างกาย ซึ่งตนกำลังเจรจากันอยู่ว่าเราจะทดลองที่ใดที่หนึ่งให้เป็นศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ
ผู้สื่อข่าวได้ถามเรื่องที่ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต รมช.มหาดไทย เซ็นคำสั่งเพิกถอนที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ กลับคืนเป็นที่ธรณีสงฆ์ ก่อนหมดวาระเพียงไม่กี่วัน อดีตนายกฯ แม้ว บอกว่า ไม่ได้มองเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ถ้าสมมุติว่ามีการบอกให้เพิกถอนแล้วจะอย่างไรต่อ วัดจะเอาอย่างไร จะชดเชยความเสียหายผู้ซื้อบริสุทธิ์อย่างไร ถ้าทุกคนยึดกติกาทุกอย่างก็จบ ตอนที่ไปร่วมตีกอล์ฟกับ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้หรือเขากระโดง

“ในฐานะที่ผมเป็นเจ้าของสนามกอล์ฟอัลไพน์ เอาอย่างไรก็เอา จะได้จบๆ เสียที คาราคาซังน่ารำคาญ และหากมีการถอนสิทธิจริงๆ ก็ไม่เป็นไร กรมที่ดินก็ต้องชดเชยความเสียหายที่รับโอนอย่างไม่ถูกต้อง หรือหากเป็นของวัด ต้องถามว่าวัดจะชดเชยค่าเสียหายหรือให้เช่าต่อ แต่ในเมื่อรัฐใช้อำนาจตรงนี้ ผู้เสียหายก็มีสิทธิในการเรียกร้องค่าเสียหาย อย่ามองทุกอย่างเป็นเรื่องใหญ่ การมองเราชอบเอาเรื่องเล็กไปมองเป็นเรื่องใหญ่ ความจริงไม่มีอะไรใหญ่” อดีตนายกฯ กล่าว
ส่วนกรณีอดีตนายกฯ แม้ว ต้องกลับไปนอนเรือนจำ เพราะที่ผ่านมาไปนอน รพ.ตำรวจชั้น 14 จนหมดระยะเวลารับโทษจำคุกนั้น นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ได้ให้ความเห็นผ่านเพจสมาคมทนายความ ว่า กรณีของอดีตนายกน เป็นเรื่องของ ”การส่งตัวไปรักษาพยาบาลนอกเรือนจำ“ ตามมาตรา 55 วรรคสอง ของ พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 ซึ่งกฎหมายให้ถือว่าถูกคุมขังอยู่ตลอดเวลาที่รักษาตัว

การส่งตัวนายทักษิณไปรักษาตัวนอกเรือนจำดังกล่าว ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 มาตรา 55 วรรคสอง ประกอบกฎกระทรวง การส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ. 2563 ซึ่งเป็นกฎหมายเฉพาะที่ให้อำนาจผู้บัญชาการเรือนจำส่งตัวผู้ต้องขังไปสถานบำบัดโดยไม่ต้องขออนุญาตศาล พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 มาตรา 55 วรรคสาม บัญญัติว่า ในกรณีที่ส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำตามวรรคสอง มิให้ถือว่าผู้ต้องขังนั้นพ้นจากการคุมขัง ดังนั้น ห้องพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ จึงมีสถานะตามกฎหมายเป็นสถานที่คุมขังอันเป็นเรือนจำตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 มาตรา 4
“การที่อดีตอาจารย์กฎหมายบางท่านแสดงความเห็นว่าต้องให้ศาลฎีกาฯ ออกหมายขังอดีตนายกฯ และนำตัวกลับมาขังในเรือนจำใหม่นั้น เป็นความเห็นที่คลาดเคลื่อนถึงขั้นเลอะเทอะ เพราะไม่มีกฎหมายให้อำนาจนำผู้ต้องขังที่ได้รับโทษครบถ้วนแล้วกลับไปขังซ้ำอีก” นายกสภาทนายความ โพสต์
เห็นทีว่า คดีชั้น 14 น่าจะเอาผิดใครได้ยาก คงใช้เหตุผลว่า “ตัดสินใจหน้างานดีที่สุดแล้ว”
“ทีมข่าวการเมือง”