เมื่อวันที่ 18 ม.ค. นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข พร้อมด้วย พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย ลงนามความร่วมมือ 12 หน่วยงาน เพื่อพัฒนาคุณภาพน้ำประปา หมู่บ้านสะอาด สู่การยกระดับเมืองสุขภาพดี ณ โรงแรมลีการ์เด้นส์พลาซ่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา  

นายเดชอิศม์ กล่าวว่า นโยบายกระทรวงสาธารณสุข นอกจากการส่งเสริมสุขภาพ ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบอนามัยสิ่งแวดล้อมให้ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะการยกระดับคุณภาพน้ำประปาหมู่บ้าน เพื่อให้ประชาชนสุขภาพดี มีความเป็นอยู่ที่ดี และคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน เมื่อเดือน พ.ย. 2567 กระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศนโยบาย 3C Clear Clean Chlorine “น้ำประปาหมู่บ้านสะอาด” ที่จังหวัดสงขลา พร้อมมอบธงขับเคลื่อนนโยบาย 7 จังหวัดด้ามขวาน ประกอบด้วย จังหวัดสงขลา ตรัง พัทลุง สตูล ปัตตานี นราธิวาส และยะลา ล่าสุดวันนี้ได้ขยายความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เพิ่มเติม 12 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดสงขลา สันนิบาตเทศบาลจังหวัดสงขลา ชมรมนายกองค์การบริหารส่วนตำบลจังหวัดสงขลา องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา การประปาส่วนภูมิภาค เขต 5 สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 12 สงขลา สำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 8 สงขลา สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 16 สงขลา สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสงขลา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา ศูนย์อนามัยที่ 12 ยะลา และสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ถือว่าจังหวัดสงขลาเป็นจังหวัดแรกที่ขับเคลื่อนตามนโยบายดังกล่าว

ทั้งนี้ การพัฒนายกระดับคุณภาพน้ำประปาหมู่บ้านเป็นการลงทุนที่สร้างผลลัพธ์อันคุ้มค่าในระยะยาว ไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชน แต่ยังเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาชุมชนและประเทศอย่างยั่งยืน โดยให้ อปท. ทุกแห่ง ตั้งงบประมาณปีละ 1 หมื่นบาท ในการพัฒนาคุณภาพน้ำประปาหมู่บ้านเพื่อประชาชนชาวจังหวัดสงขลาทั้ง 16 อำเภอ 127 ตำบล 1,180 หมู่บ้าน ประชาชน 1.4 ล้านคน จะมีน้ำประปาสะอาดใช้เพียงพอ สำหรับในปี 2568 กระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้าให้น้ำประปาหมู่บ้าน ผ่านเกณฑ์น้ำประปาสะอาด 1,750 แห่ง และน้ำประปาหมู่บ้านขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในสงขลา อย่างน้อย อปท. ละ 1 แห่ง

พญ.อัมพร กล่าวว่า น้ำเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่รัฐต้องจัดหาให้กับประชาชน โดยเฉพาะการจัดน้ำดื่มที่สะอาดและเพียงพอเป็นประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสำคัญและเป็นเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน เป้าหมายที่ 6 (Sustainable Development Goal: SDG6) ขององค์การสหประชาชาติ (UN) เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงน้ำดื่มที่ปลอดภัยและมีราคาที่สามารถซื้อหาได้ สำหรับประเทศไทย รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ โดยกำหนดเป็นแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) ประเทศไทยยังประสบปัญหาคุณภาพน้ำประปาไม่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะน้ำประปาหมู่บ้าน ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่ประชาชนใช้มากที่สุด

ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมอนามัยในการสุ่มเฝ้าระวังคุณภาพน้ำประปาหมู่บ้าน ตั้งแต่ปี 2561-2567 จำนวน 10,271 แห่ง พบว่ามีเพียง 420 แห่ง คิดเป็น 4% เท่านั้น ที่ผ่านการรับรองเป็นน้ำประปาหมู่บ้านสะอาด ที่มีความปลอดภัยสำหรับนำมาบริโภคในครัวเรือน ซึ่งถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับน้ำประปาในเขตเมือง และปัญหาสำคัญ คือ ยังขาดความครอบคลุมในการตรวจวิเคราะห์เพื่อประเมินคุณภาพน้ำประปาหมู่บ้าน เนื่องจากขาดงบฯ ดำเนินการ ซึ่งทั้งประเทศมีประปาหมู่บ้าน ทั้งหมด 69,028 แห่ง ดังนั้น นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข จึงมีนโยบายพัฒนาและยกระดับคุณภาพน้ำประปาหมู่บ้านให้สะอาดและปลอดภัยครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเริ่มต้นที่จังหวัดสงขลา เป็นจังหวัดแรกของประเทศไทย

“วันนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่กรมอนามัยได้ลงนามร่วมกับ 12 หน่วยงานในจังหวัดสงขลา รวมทั้งแลกเปลี่ยนเรียนรู้การดำเนินงานน้ำประปาสะอาด เพื่อให้หน่วยงานในระดับพื้นที่ ร่วมมือกันพัฒนาระบบประปาหมู่บ้านในพื้นที่เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบลของจังหวัดสงขลา ให้สามารถผลิตน้ำประปาได้ตามเกณฑ์คุณภาพน้ำประปาดื่มได้ ของกรมอนามัย พ.ศ. 2563 ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ที่มุ่งสนับสนุน ส่งเสริมให้ประชาชนมีน้ำบริโภคที่สะอาด ปลอดภัย เพื่อเป็นปัจจัยเอื้อในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน และสอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ขององค์การสหประชาชาติ ภายในปี พ.ศ. 2570” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว.