เมื่อวันที่ 19 ม.ค.นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ ส.ส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการผลักดันร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)สถาบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่า ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยต้องยอมรับความจริงเกี่ยวกับการบริหารจัดการการพนันในบริบทที่เหมาะสมและถูกต้องตามกฎหมาย ประเทศไทยถูกล้อมรอบด้วยกาสิโนที่ถูกกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเมียนมา ที่มี 14 แห่ง กัมพูชา 21 แห่ง ลาว 4 แห่ง มาเลเซีย 1 แห่ง รวมถึงสิงคโปร์ อีก 2 แห่ง โดยเงินจำนวนมหาศาลของคนไทยไหลออกนอกประเทศทุกปี ขณะเดียวกัน ประเทศไทยยังปล่อยให้มีบ่อนเถื่อนเล็ก ๆ ในพื้นที่ต่าง ๆ ที่ไม่มีการควบคุมดูแลอย่างมีประสิทธิภาพ
“วันนี้ถึงเวลาที่ต้องเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูดบนโต๊ะ และทำให้ถูกต้อง มากกว่าการมองแค่ว่าเป็นเรื่องมอมเมาประชาชน เราต้องยอมรับว่ากาสิโนคือโอกาสทางเศรษฐกิจ ไม่ใช่ปัญหาที่ต้องปิดตาไม่มอง การผลักดันโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่ใช่เพียงเพื่อการพนันเท่านั้น แต่เป็นการสร้างศูนย์รวมความบันเทิงและการท่องเที่ยวที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในหลายมิติ“นายอัครนันท์ กล่าว
นายอัครนันท์ กล่าวต่อว่า ต้องเข้าใจว่ากาสิโน เพียงอย่างเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาความยากจนได้ แต่เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เป็นเพียงหนึ่งในเครื่องมือที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งยังช่วยลดปัญหาการเงินไหลออกนอกประเทศ และผลักดันโครงการนี้จะต้องมาพร้อมกับมาตรการควบคุมที่เข้มงวดเพื่อป้องกันปัญหาสังคม เช่น การติดการพนัน การฟอกเงิน และการจัดการกาสิโนผิดกฎหมาย แต่ตนขอเสนอว่าการพัฒนาโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ควรผูกโยงกับการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เช่น การจัดงานแสดงระดับโลก การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และการจัดกิจกรรมที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เพื่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจในวงกว้าง
”ประเทศไทยต้องเปิดกว้างและมองไปข้างหน้า พร้อมย้ำว่าการพัฒนาโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เป็นโอกาสสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม แต่ต้องมาพร้อมกับการบริหารจัดการที่โปร่งใส และยั่งยืนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ“นายอัครนันท์ กล่าว.