เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่ จ.สุพรรณบุรี นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง นายบุญชู จันทร์สุวรรณ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) สุพรรณบุรี ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยนายบุญชูที่โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 3 อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี โดยช่วงหนึ่งระบุว่า เหตุผลเดียวที่ทำให้นายบุญชูต้องมาลงสมัครในนามอิสระทั้งที่มีความรักเคารพและผูกพันกับนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี บ้านใหญ่แห่งเมืองสุพรรณฯ มายาวนานกว่า 40 ปี ตั้งแต่รุ่นพ่อมาสู่รุ่นลูก และไม่เคยทอดทิ้งพรรคชาติไทยพัฒนาตามคำสั่งเสียของนายบรรหารก่อนเสียชีวิต 

นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า นายบุญชู เป็นสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนามากกว่า 20 ปี แต่สุดท้ายต้องลาออกไปเมื่อเดือน พ.ค. 2567 เพราะถูกพรรคชาติไทยพัฒนา ถีบออกมา หันไปเปิดตัวและสนับสนุนผู้สมัครอีกคนแทน โดยไม่สนใจคำสั่งเสียของนายบรรหารที่บอกไว้ว่า “อย่าทอดทิ้งอาบุญชู” ก่อนหน้าที่นายบุญชูจะลงสมัคร มีนักการเมืองที่ชื่อประพัตรโทรฯ มาขอพวกของตนที่เป็นแกนนำเสื้อแดงว่าอย่าลงพื้นที่มาช่วยนายบุญชู ขอให้แข่งกันเองของคนสุพรรณฯ แต่สุดท้ายสัจจะก็ไม่มีอยู่จริง ตนเหมือนถูกหักหลัง วันที่ 19 ธ.ค. 2567 พรรคชาติไทยพัฒนาอนุมัติให้ผู้สมัครคนหนึ่งใช้โลโก้พรรคลงสมัครเลือกตั้งนายก อบจ. ในครั้งนี้ ซึ่งเมื่ออีกฝ่ายเสียสัตย์ ตนและแกนนำเสื้อแดงจึงตัดสินใจลงมาช่วยนายบุญชูหาเสียงแบบเต็มตัว “ผมขอเรียกร้องอีกฝ่ายให้ทำการเมืองกันอย่างโปร่งใส อย่าทำตัวเป็นอีแอบ จะสนับสนุนใครก็เปิดหน้าออกมาให้ชัดเจน เพราะคนสุพรรณฯ ชอบคนตรงไปตรงมาไม่ชอบอีแอบครับ”

นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า จากการลงพื้นที่หาเสียงช่วยนายบุญชู มีชาวบ้านร้องเรียนเรื่องทุจริตเข้ามาเยอะได้ข่าวว่า “อีแอบ” เริ่มทำงาน ยังพบอีกว่ามีใครบางคนร่ำรวยผิดปกติ แบบแปลก ๆ ไม่รู้ไปเอาเงินมาจากไหน ซึ่งเรื่องนี้ตนเองจะเชิญคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้เข้ามาตรวจสอบในพื้นที่ รวมถึงร้องเรียนไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)  ให้ตรวจสอบเส้นทางเงินด้วย และจะเดินหน้าตามความคืบหน้าคดีหมูเถื่อน หาต้นตอ เปิดหน้านายทุนที่อยู่เบื้องหลังออกมาให้ได้โดยเร็วที่สุด

“ผมขอเรียกร้องข้าราชการให้วางตัวเป็นกลาง ตอนนี้ผมเก็บข้อมูลไว้หมดแล้ว จะร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ตรวจสอบแน่นอน ใครเป็น “อีแอบ” อยู่ก็จะได้เห็นกัน งบประมาณพันกว่าล้านของ จ.สุพรรณบุรี ไม่ใช่ไอติมที่จะให้ใครมาแอบดูดแอบเลียไปง่าย ๆ” นายพร้อมพงศ์ กล่าว

นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า จ.สุพรรณบุรี โดยเฉพาะที่อำเภอด่านช้าง มีปัญหาเรื่องเอกสารสิทธิเกือบทั้งอำเภอ นอกจากชาวบ้านจะไม่มีเอกสารสิทธิในที่ทำกินแล้ว สถานที่ราชการก็ไม่มีเอกสารสิทธิเช่นกัน เพราะการเมืองระดับชาติในพื้นที่ไม่ทำงาน การบริหารงานใน จ.สุพรรณบุรี ที่ผ่านมา ชาวบ้านรู้ดีว่าใครเป็นคนขับเคลื่อน คนพื้นที่จริง ๆ จะรู้ว่าใครคือของแท้หรือของเทียม ใครเอาแต่สร้างภาพ กินบุญเก่า การเลือก อบจ. ครั้งนี้จะเป็นบทพิสูจน์ ตนอยากให้คนสุพรรณฯ ช่วยนายบุญชูอีกครั้งเพื่อเป็นการบอกให้โลกรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสุพรรณบุรี ถึงเวลาแฉบางตระกูล บางพรรค ให้ล่อนจ้อน “อีแอบ” เป็นใคร ปากบอกเป็นกลาง แต่กลับทำตรงกันข้ามกับสิ่งที่พูด ไม่คิดถึงความสัมพันธ์ในอดีต ออกแนว “เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล”