รับบท “นายแบก” ช่วยลูกสาว “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี สำหรับ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี สวมบทเดินสายปราศรัยช่วยผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหลายจังหวัดในช่วงโค้งสุดท้าย แบบไม่มีเหนียมอาย แม้มีเสียงวิพาษ์วิจารณ์แรงถึงขั้นเรียกว่า ”นายกฯตัวจริง“ เพราะทุกคำพูดล้วนไม่ต่างจากนายกรัฐมนตรีเต็มขั้น ทั้งออกนโยบาย สั่งการ ไปถึงเรื่องการยุบสภา ปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)
หากมองดีๆอีกมุมเข้าใจว่าการออกตัวแรง แสดงอาการนั่งไม่ติด เพราะที่ผ่านมารัฐบาลถือว่ายังไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน ว่ากันตามกระแสในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา ไม่ได้ปังอย่างที่คิด ไม่ได้โดดเด่นอะไรมากมายนัก ฉะนั้นถึงเวลา “พ่อนายกฯ” ต้องออกโรงเล่นบทโดดเด่น เรียกคะแนนกลับมาให้รัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ยอมออกมาเต็มตัวเปิดหน้ามากกว่าหลบอยู่หลังฉาก สั่งการอยู่เบื้องหลังครั้งนี้วางเดิมพันไว้สูง ทุ่มสุดตัวเทหมดหน้าตัก
เห็นได้จากตารางออนทัวร์ช่วยผู้สมัครหาเสียงนายกอบจ.โค้งสุดท้ายพื้นที่ภาคอีสาน ตั้งแต่วันที่ 18-20 ม.ค.หาเสียง 4 จังหวัด เริ่มที่ จ.นครพนม ช่วยนายอนุชิต หงษาดี ผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม จากนั้นวันที่ 19 ม.ค.นาย ที่จ.บึงกาฬ ช่วยว่าที่ ร.ต.ภูมิพันธ์ บุญมาตุ่น ผู้สมัครนายก อบจ.บึงกาฬ ก่อนไป จ.หนองคาย ช่วยนายวุฒิไกร ช่างเหล็ก ผู้สมัครนายก อบจ.หนองคาย ปิดท้ายวันที่ 20 ม.ค.จ.มหาสารคาม ช่วยนายพลพัฒน์ จรัสเสถียร ผู้สมัครนายก อบจ.มหาสารคาม
งานนี้ “พ่อเลี้ยง” และ “ลูกสาว” โนสน โนแคร์เสียงวิจารณ์ดราม่าต่างๆ แบ่งงานกันทำพ่อเดินสายบู๊ ลูกเดินสายบริหารประนีประนอม สถานการณ์การเมืองไฟต์บังคับบีบ “พ่อใหญ่ทักษิณ”ในฐานะคนคุมเกมในรัฐบาลตัวจริง ขึ้นเล่นหน้าฉาก อีกนัยเป็นการปรามพรรคร่วมรัฐบาลไปในตัว ไม่ให้แตกแถวแหกด่าน เพราะลำพัง “ลูกสาวคนเล็กตระกูลชินวัตร“ เอาไม่อยู่ จึงต้องยืมมือพ่อคุมเกมในรัฐบาลคอยจัดระเบียบพรรคร่วมรัฐบาล
แน่นอนว่าเกมการเมืองในรัฐบาลไม่น่าห่วงพรรคร่วมรัฐบาล “กุนซือใหญ่ทักษิณ“มองทะลุแรงต้านในรัฐบาลไม่กล้าหือ แม้จะยังมีเกมต่อรอง หมูไป–ไก่มา จี้จุดอ่อนของแต่ละฝ่าย จากรายการบี้มา–กระแทกกลับ แบบสุภาษิตโบราณที่ว่า “ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่” แต่ห่วงเสียงคัดค้านภายนอก เริ่มดังและส่อแววกระหึ่มในมิช้า เพราะหลายเรื่องอย่าง “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”
ยังมีช่องโหว่ อาชญากรรม แก๊งอาชญากร มาเฟีย และปมฟอกเงิน ที่รัฐบาลต้องพร้อมรับข้อติติง ไปปรับปิดช่องว่าง
ภาคบังคับ “พ่อนายกฯ” ต้องทำงานหนักมือระวิง เหยียบคันเร่งนโยบายพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้เห็นผลเป็นรูปธรรม สปีดผลงานโบแดงด่วนจี๋ กู้กระแสเพื่อไทย คู่ขนานไปกับลุยขับเคลื่อน ช่วยปั๊มคะแนนรัฐบาลลูกสาวอีกทาง บุกตีท้ายครัวบ้านใหญ่เครือข่ายพรรคร่วมรัฐบาลหลายพื้นที่ให้กลับมาอยู่ในมือมากที่สุด ใช้กระแสบ้านใหญ่เป็นทางลัด ฟื้นความยิ่งใหญ่ ยึดครองความเป็นเจ้าสนามนายก อบจ.ชี้วัดบารมีนายใหญ่ เจอด่านหินตั้งตระหง่านตลอดปี 2568 จู่โจม “พ่อ–ลูก”เหนื่อยหนัก ต้องรีบกู้แต้มมือเป็นระวิง.