เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่กระทรวงคมนาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า วันนี้สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยเข้าพบ เพื่อชี้แจงถึงความเดือดร้อนของผู้ประกอบการขนส่งที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น ให้กระทรวงคมนาคมรับทราบ และชี้แจงถึงแนวทางการจัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์พลังของคนรถบรรทุก (Truck Power) ซีซั่น 2 เพื่อผลักดันข้อเรียกร้องดังนี้

1.ขอให้รัฐบาล โดยกระทรวงพลังงาน และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พิจารณาการนำน้ำมันปาล์มออกจากสัดส่วนการผสมของน้ำมันดีเซล เนื่องจากปัจจุบันราคาปาล์มเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าน้ำมันดีเซลถึง 2 เท่าตัว เพื่อให้ราคาน้ำมันดีเซลสามารถลดลงได้ถึงลิตรละ 2 บาท 2.ขอให้รัฐบาล โดยกระทรวงการคลัง พิจารณาลดอัตราภาษีสรรพสามิตของน้ำมันดีเซล ที่ปัจจุบันสูงถึงเกือบ 6 บาท ให้ลดลง 3 บาท  

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ซึ่งการลดราคาทั้ง 2 ปัจจัย สามารถทำให้ราคาน้ำมันดีเซลลดลงเหลือลิตรละ 25 บาท ตามข้อเรียกร้อง และเน้นย้ำว่าราคาน้ำมันไม่ได้ส่งผลกระทบเพียงภาคการขนส่งเท่านั้น ยังกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้าและต้นทุนของภาคการเกษตร ซึ่งในช่วงนี้อยู่ในช่วงฤดูการเก็บเกี่ยวและลำเลียงสินค้าการเกษตรเข้าสู่กระบวนการผลิต ราคาน้ำมันที่สูงส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม ส่วนของผู้แทนกระทรวงพลังงานให้ข้อมูลว่าได้ดำเนินการหารือกระทรวงการคลัง เพื่อขอลดอัตราภาษีสรรพสามิต ส่วนในประเด็นการปรับสัดส่วนน้ำมันปาล์มออกจากน้ำมันดีเซล คณะกรรมการนโยบายพลังงาน มีมติยังคงสัดส่วนดังกล่าวไว้ 

อย่างไรก็ตาม สหพันธ์ฯ ยืนยันว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าว จะดำเนินการโดยไม่ให้เกิดผลกระทบต่อภาคธุรกิจและประชาชน รวมถึงเป็นไปภายใต้กรอบของกฎหมาย โดยเน้นย้ำขอให้รัฐบาลทบทวนการนำน้ำมันปาล์มออกจากน้ำมันดีเซลเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อประเทศโดยส่วนรวม โดยจะติดตามมาตรการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจากรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งก่อนที่จะพิจารณาจัดกิจกรรมอื่นๆ ต่อไป 

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า ประเด็นการหารือในวันนี้ จะนำเรียน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อโปรดทราบ และหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเร็วๆ นี้ พร้อมทั้งการนำประเด็นข้อเรียกร้องหารือร่วมกับกระทรวงพลังงาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เพื่อให้ภาคธุรกิจและระบบเศรษฐกิจในภาพรวมยังคงสามารถดำเนินการต่อไปได้ ส่วนการจัดกิจกรรม Truck Power เน้นย้ำขอให้ดำเนินการในสถานที่ตั้งของผู้ประกอบการ ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อภาคธุรกิจและประชาชน นอกจากนี้ สหพันธ์ฯ ยังขอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาชะลอการปรับขึ้นค่าทางด่วน ที่จะมีการปรับขึ้นถึง 2 เท่าตัว และส่งผลต่อต้นทุนภาคการขนส่งด้วยเช่นกัน กระทรวงคมนาคม จะได้หารือกับผู้ได้รับสัมปทานถึงแนวทางความเป็นไปได้ในการช่วยเหลือผู้ประกอบการต่อไป