ช่วงนี้คนไทยประสบกับปัญหา “ฝุ่นละออง PM2.5” หรือ “ฝุ่นพิษ” ซึ่งสามารถถูกสูดเข้าลึกถึงทางเดินหายใจและปอด ก่อให้เกิดการระคายเคือง แสบจมูก ไอ จาม มีเสมหะ หอบหืด หัวใจวายเฉียบพลัน หลอดเลือดสมองตีบ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคภูมิแพ้ โรคปอด ต้องระวังสุขภาพเป็นพิเศษ เนื่องจากฝุ่นทำให้โรคกำเริบได้ง่ายในระยะยาวและที่อันตรายที่สุดอาจถึงขั้นเป็นมะเร็งปอด บางคนจึงต้องหาวิธีป้องกันโดยใช้ผ้าปิดจมูกบ้าง บางคนทำงาน WFH หรือบางคนอาจล้างจมูก ซึ่งวิธี “การล้างจมูก” บ่อยๆดีหรือไม่

“กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข” ได้ให้ข้อมูลไว้ว้า การล้างจมูกสามารถช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพจากการรับสัมผัสฝุ่นละอองได้เบื้องต้น และยังช่วยลดจำนวนเชื้อโรค มลพิษ ฝุ่นละออง สารก่อภูมิแพ้ สิ่งระคายเคือง และสารที่เกิดปฏิกิริยาของร่างกายที่มีต่อสารก่อภูมิแพ้ในโพรงจมูกรวมไปถึงไซนัส นอกจากนี้ การล้างจมูกยังช่วยป้องกันการลุกลามของเชื้อโรคจากจมูกและไซนัสขึ้นไปหูชั้นกลางหรือลงไปสู่ปอดได้ด้วย ทั้งนี้ การล้างจมูกให้ใช้น้ำเกลือความเข้มข้น 0.9 เปอร์เซ็นต์ ห้ามใช้น้ำประปาหรือน้ำอื่น ๆ และควรล้างให้ถูกวิธี ไม่ควรฉีดเข้าจมูกแรงเพราะอาจทำให้โพรงจมูกระคายเคืองหรืออักเสบได้

ส่วนการ“การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ”บ่อยๆดีหรือไม่ และจะส่งผลอันตรายต่อจมูกได้หรือไม่? โรงพยาบาลพญาไท 2 ได้ลงบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ ว่า “การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ” สามารถทำได้โดยไม่เกิดโทษต่อจมูกหรือร่างกาย… หากล้างจมูกอย่างถูกต้อง ดังนั้น เพื่อประโยชน์ทั้งในผู้ป่วย “โรคภูมิแพ้-ไซนัสอักเสบ” หรือแม้แต่ผู้ที่แข็งแรงดีที่อยากป้องกันการเกิดภูมิแพ้หรือไซนัสอักเสบ ขั้นตอนการล้างจมูกที่ถูกต้องจึงถือว่าสำคัญมาก!

 การล้างจมูก..มีประโยชน์อย่างไร?

  • ช่วยบรรเทาอาการหวัดเรื้อรัง อาการคัดจมูก หรืออาการระคายเคืองในจมูกให้ดีขึ้น
  • ชำระล้างสิ่งสกปรกและเชื้อโรคออกจากจมูก ล้างมูกเหนียวข้น ช่วยให้โพรงจมูกสะอาด
  • ชำระล้างคราบสะเก็ดแข็งของเยื่อบุจมูกหลังการผ่าตัดจมูกและไซนัส
  • ป้องกันการลุกลามของเชื้อโรคจากจมูกและไซนัสไปสู่ปอด
  • การล้างจมูกก่อนใช้ยาพ่นจมูก จะช่วยให้ยาพ่นจมูกมีประสิทธิภาพดีขึ้น

ขั้นตอนการล้างจมูกที่ถูกวิธี

  1. อุ่นน้ำเกลือก่อนล้างจมูก เนื่องจากการใช้น้ำเกลือที่ไม่ได้ผ่านการอุ่นอาจทำให้เกิดการคัดจมูกหลังการล้างได้ โดยเทน้ำเกลือสำเร็จรูปใส่ในภาชนะสะอาดที่มีลักษณะปากกว้าง เช่น ชาม นำไปอุ่นในไมโครเวฟ แล้วทดสอบระดับความอุ่นของน้ำเกลือกับหลังมือก่อนนำไปล้างจมูก
  2. ล้างจมูกบนโต๊ะ โดยนำภาชนะ เช่น ชามหรือกะละมังมาวางเพื่อรองรับน้ำเกลือจากการล้างจมูก หรือล้างในอ่างล้างหน้า
  3. ดูดน้ำเกลือที่อุ่นแล้วด้วยลูกยางแดงหรือกระบอกฉีดยาที่แพทย์จ่ายให้ โดยดูดน้ำเกลือประมาณ 5 ซีซี สำหรับเด็ก หรือประมาณ 10-15 ซีซี สำหรับผู้ใหญ่
  4. โน้มตัวไปข้างหน้าและก้มหน้าเล็กน้อย โดยให้ใบหน้าอยู่เหนือภาชนะสำหรับรองรับน้ำเกลือ
  5. นำปลายลูกยางแดงหรือกระบอกฉีดยาใส่เข้าไปในจมูก โดยเริ่มล้างจมูกจากข้างที่มีอาการคัดน้อยกว่า อ้าปากค้างไว้ สูดหายใจเข้าเต็มที่และกลั้นหายใจไว้
  6. บีบลูกยางแดงหรือดันกระบอกสูบของกระบอกฉีดยาเบาๆ เพื่อให้น้ำเกลือไหลเข้าไปในโพรงจมูกอย่างช้าๆ โดยน้ำเกลือที่ไหลเข้าไปในรูจมูกข้างหนึ่งจะไหลออกมาทางรูจมูกอีกข้างหนึ่ง หลังจากน้ำเกลือไหลออกมาแล้วจึงค่อยหายใจตามปกติ

ข้อควรระวังในการล้างจมูกด้วย

ในระหว่างการดันน้ำเกลือเข้าไปในโพรงจมูก จำเป็นต้องกลั้นหายใจไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้หายใจเอาน้ำเกลือลงไปยังกล่องเสียงและหลอดลม เพราะจะทำให้เกิดการสำลักได้

  • ล้างอุปกรณ์ที่ใช้ล้างจมูกหลังใช้งานเสร็จทุกครั้ง โดยนำมาล้างกับน้ำสบู่ และล้างด้วยน้ำประปาจนสะอาด ก่อนนำมาผึ่งให้แห้ง

ล้างจมูกกี่ครั้ง? ถึงจะชำระล้างสิ่งสกปรกได้

ในการล้างจมูกด้วยน้ำเกลือแต่ละครั้งนั้น ควรล้างจนกว่าน้ำเกลือที่ไหลออกมาทางจมูกและปากใสเหมือนกับน้ำเกลือก่อนล้างจมูก โดยการล้างจมูกที่มีประสิทธิภาพควรล้างโพรงจมูกในทุกทิศทาง ทั้งทางขวา ซ้าย ด้านบนและด้านล่างของโพรงจมูก เพื่อให้สามารถชะล้างน้ำมูกหรือสิ่งสกปรกออกมาได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้