เมื่อวันที่ 23 ม.ค. นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า หนังสือการเพิกถอนกรรมสิทธิ์ที่ดินของบริษัทอัลไพน์ ให้กลับไปเป็นที่ธรณีสงฆ์ หลังจากที่นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงนามถึงกรมที่ดินแล้วเมื่อวันอังคารที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนี้จะเป็นอำนาจของกรมที่ดินที่จะดำเนินการต่อ
เมื่อถามว่าแนวโน้มจะออกเป็น พ.ร.บ.โอนที่ธรณีสงฆ์ เพื่อชดเชยผู้เสียหาย แทนการจ่ายเงินเยียวยาจะทำได้หรือไม่ นายพรพจน์ กล่าวว่า เคยทำมาแล้วก่อนหน้านี้ในสมัย 2 รัฐบาลที่ผ่านมา โดยเป็นข้อสังเกตของคณะกรรมการกฤษฎีกา ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 สามารถออกได้ตามมาตรา 34 (การโอนที่วัด ที่ธรณีสงฆ์ หรือศาสนสมบัติกลาง กระทำได้ก็แต่โดยพระราชบัญญัติ) ซึ่งขณะนั้นได้มีการตั้งคณะกรรมการแล้ว แต่สุดท้ายถูกยกเลิก เรื่องนี้จึงหยุดไป
ผู้สื่อถามว่าท้ายที่สุดแล้วมองว่า การชดเชยระหว่างบริษัท อัลไพน์ และประชาชนที่ถือครองที่ดินจะออกมาในทิศทางใด นายพรพจน์ กล่าวว่า จะต้องเป็นไปตามวิธีการทางกฎหมาย โดยต้องยื่นคำสั่งของศาลปกครอง ว่าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีความเดือดร้อนอย่างไร ซึ่งก็ต้องมีการโต้แย้งคำสั่งทางปกครองในการยกเลิกเพิกถอนที่ดินอัลไพน์ในการทำนิติกรรมสัญญา ส่วนที่มีข้อสังเกตของฝ่ายกฎหมาย กระทรวงฯ ให้ความเห็นไว้ว่าคำวินิจฉัยของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้รักษาราชการแทนปลัดมหาดไทยขณะนั้น เมื่อวันที่ 13 มี.ค.2545 ให้เพิกถอนคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน ที่ให้เพิกถอนที่ดินจากเอกชนให้เป็นของวัด เป็นการวินิจฉัยขัดแย้งกับความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา ทำให้คำสั่งทางปกครองที่เป็นโมฆะ ไม่ก่อให้เกิดผลในทางกฎหมาย จะนำความเห็นดังกล่าวยกขึ้นสู้กับบริษัทอัลไพร์หรือไม่หากมีการฟ้องกรมที่ดิน
นายพรพจน์ กล่าวอีกว่า ทุกอย่างจะต้องทำตามกระบวนการ โดยในช่วงแรกก่อนปี 2544 ที่จะมีคำสั่งยกเลิกเพิกถอน เสนอมาทางยังกระทรวง ซึ่งการทำนิติกรรมนั้นถูกต้อง แต่หลังจากนั้นมีคำวินิจฉัยมาจากคณะกรรมการกฤษฎีกา และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช เมื่อเห็นว่านิติกรรมนั้นไม่ชอบ จึงจำเป็นต้องยกเลิกเพิกถอน โดยคำสั่งในปี 2544 ออกมา และหลังจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการของศาล เพราะคำสั่งนี้ถือเป็นคำสั่งทางปกครอง ซึ่งต้องมีการโต้แย้งกันดูที่เหตุและผล ข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายมาพิสูจน์กัน หลังจากนี้จะต้องดำเนินการฟ้องศาลปกครอง เนื่องจากเป็นการยกเลิกคำสั่งทางปกครอง แต่ยังไม่ระบุว่าจะเป็นเมื่อใด