เมื่อวันที่ 25 ม.ค. นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุข ขานรับนโยบายกฎหมายสมรสเท่าเทียมของรัฐบาล และให้ความสำคัญนอกจากการดูแลสุขภาพทางกายแล้ว ยังให้ความคุ้มครองสิทธิการดูแลสุขภาพทางใจให้กับประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทองฯ ด้วย รวมถึงประชากรในกลุ่มบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศนี้ ดังนั้น ในการพิจารณางบประมาณหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปี 2568 คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) จึงมีมติเห็นชอบให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดสรรงบประมาณ 145.63 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนบริการสิทธิประโยชน์ใหม่ คือบริการด้านสุขภาพสำหรับกลุ่มคนข้ามเพศ เพื่อดูแลกลุ่มเป้าหมายจำนวน 200,000 ราย โดยรวมถึงบริการยาฮอร์โมนบำบัดนี้ด้วย
นายอนุกูล กล่าวอีกว่า สิทธิประโยชน์นี้จะเป็นการช่วยลดความเหลื่อมล้ำสุขภาพ ซึ่งเดิมคนที่จะรับยาฮอร์โมนนี้ จะต้องจ่ายเงินเอง ส่งผลให้มีคนจำนวนหนึ่งไม่สามารถเข้าถึงการรักษา และมีความเสี่ยงต่อสุขภาพจากการไปหาซื้อยาฮอร์โมนมากินเองที่อาจเป็นอันตรายได้ อีกทั้งสิทธิดังกล่าวยังเป็นการดูแลด้านจิตใจ ทำให้ร่างกายอยู่ในสภาวะเดียวกับจิตที่เป็นอยู่ นอกจากบริการยาฮอร์โมนแล้ว ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ยังมีสิทธิประโยชน์การรักษาพยาบาลและบริการสาธารณสุขที่ครอบคลุมดูแลกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่ไม่ต่างจากประชากรทั่วไป ซึ่งครอบคลุมทั้งบริการรักษาพยาบาล บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค และบริการฟื้นฟูสมรรถภาพ เพื่อให้เกิดการเข้าถึงบริการอย่างเท่าเทียม