จมูกอักเสบจากภูมิแพ้ เป็นโรคที่ผู้คนยุคปัจจุบันมีอาการเจ็บป่วยกันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็ก โรคดังกล่าวเป็นการอักเสบของเยื่อบุจมูกจากปฏิกิริยาภูมิแพ้ หลังสัมผัสกับสารกระตุ้นภูมิแพ้ ซึ่งมีอาการร่วมหลายอย่าง อาทิ เลือดกำเดา จาม น้ำมูกใส คันจมูก คัดจมูก นอนกรน บางคนอาจมีอาการคันตาได้ ซึ่งอาการเหล่านี้มักเป็นๆ หายๆ
สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข มีคำแนะนำแก่พ่อแม่ผู้ปกครองเพื่อคอยสังเกตอาการของลูกหลาน พร้อมกับวิธีการดูแลและการป้องกันโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ เพื่อสุขภาพที่ดีของเด็กและสมาชิกในครอบครัว
สังเกตอาการเบื้องต้นที่น่าสงสัย
@ เป็นหวัดบ่อยๆ เรื้อรังเป็นเวลานานหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน
@ มีอาการจามบ่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเช้าหรือค่ำ
@ คันตาเป็นๆ หายๆ
@ คัดจมูก หายใจไม่สะดวก
@ มีน้ำมูกใสๆ ทุกวัน

ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อแยกจากโรคไซนัสอักเสบ โรคติดเชื้ออื่นๆ ในโพรงจมูก หรือภาวะที่มีสิ่งแปลกปลอมในโพรงจมูก ซึ่งอาจพบในเด็กได้บ่อย
การดูแลเด็กที่มีภาวะโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้
การหลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้และสิ่งที่กระตุ้นถือเป็นหลักสำคัญที่สุดในการรักษา ผู้ปกครองจึงต้องสังเกตสิ่งที่กระตุ้นให้เด็กเกิดอาการด้วย สาเหตุส่วนใหญ่ที่มักทำให้เด็กมีอาการแพ้ คือ ตัวไรฝุ่นในบ้าน ในห้องนอน หรือตุ๊กตาที่ใช้นุ่นหรือสำลี ฝุ่นบ้าน ซากแมลง กลิ่นของสารเคมี น้ำหอม ควันบุหรี่
วิธีป้องกัน
@ ควรจัดห้องนอนหรือห้องนั่งเล่นของเด็กให้สะอาด
@ ห้องนอนของเด็กไม่ควรใช้พรมปูพื้นหรือมีข้าวของรกรุงรัง ซึ่งอาจทำให้กักฝุ่นได้
@ ควรทำความสะอาดห้องด้วยการถูน้ำทุกวัน

@ กำจัดตัวไรฝุ่น ด้วยการซักผ้าปูเตียงและปลอกหมอนด้วยน้ำร้อนอุณหภูมิสูงกว่า 60 องศาเซลเซียส นานอย่างน้อย 15 นาที อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
@ หลีกเลี่ยงการได้รับควันบุหรี่ เนื่องจากอาจทำให้มีอาการ น้ำมูกไหล จาม ตาแดง ไอ หรือหอบหืด
@ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
@ ระมัดระวังการติดเชื้อหวัดจากคนใกล้ชิดในบ้านหรือที่โรงเรียน
@ ผู้ปกครองควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์โดยเคร่งครัด ไม่ควรงดใช้ยาเอง เพราะยาบางชนิดอาจต้องใช้เวลาพอสมควรจึงจะเห็นผลในการรักษา และไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้งเพื่อการรักษาอย่างต่อเนื่อง
