เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่จุดเฝ้าระวังช้างป่า เครือข่ายอาสาเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า (หมาในTeam) ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน น.ส.ญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี พรรคประชาชน และนายมานะ ชนะสิทธิ์ ผู้สมัครนายก อบจ. เบอร์ 1 พรรคประชาชน ลงพื้นที่พูดคุยกับทีมเครือข่ายอาสาเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า (หมาในTeam)

นายจารุเดช แสนสุข ผู้สมัคร ส.อบจ.โป่งน้ำร้อน เขต 1 หนึ่งในอาสาผลักดันช้างป่า กล่าวว่า พื้นที่ จ.จันทบุรี ได้รับผลกระทบช้างป่าออกมาทำลายพืชผลทางการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นต้นยางพารา ต้นทุเรียน ต้นลำไย เป็นต้น อาสาสมัครที่ปฏิบัติงานทำงานตั้งแต่เช้ายันค่ำ เสี่ยงทุกครั้งที่ลงพื้นที่ อาสาเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในรับการเยียวจากหลายหน่วยงานประมาณ 2 แสนบาท ซึ่งไม่คุ้มกับการเอาชีวิตเข้าแลก

นายจารุเดช กล่าวว่า ทางอาสาสมัครได้รับงบประมาณจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ปีละ 5 หมื่นบาท และงบจากอำเภออีก 5,000 บาทเท่านั้นในการปฏิบัติงาน ซึ่งไม่เพียงพอต่อการบริหารจัดการ ค่าน้ำมันรถที่ใช้ออกไปปฏิบัติงาน รวมถึงอุปกรณ์ในการปฏิบัติงานทั้งหมด ทางอาสาต้องจัดซื้อกันเอง ลำพังงบประมาณที่มีอยู่ไม่เพียงพอ มีแค่ใจแต่บางครั้งใจก็ไม่ปลอดภัย จึงอยากวิงวอนให้ภาครัฐเห็นใจ
นายจารุเดช กล่าวว่า อุปกรณ์ที่ตนมองว่ามีความจำเป็นต่อการปฏิบัติงานคือ โดรน ซึ่งสามารถหาพิกัดได้ว่าช้างอยู่จุดไหนของป่า รวมทั้งสามารถผลักดันช้างป่าได้อีกด้วยเนื่องจากโดรนมีเสียงที่คล้ายกับผึ้ง เดิมที่มีการใช้ประทัดในการผลักดัน แต่ด้วยความเคยชินวิธีดังกล่าวไม่สามารถใช้ได้แล้ว ปัจจุบันมีการขอยืมโดรนจากหน่วยงานทหารของกองทัพเรือในพื้นที่มาใช้ปฏิบัติงาน ซึ่งไม่ทันต่อสถานการณ์บางครั้งไปยืมก็ไม่มีคนขับโดรนให้เนื่องจากไม่ได้เข้าเวร ปัจจุบันมีจุดเฝ้าระวังช้างป่า 34 จุดทั่ว จ.จันทบุรี งบจัดซื้อโดรนใช้เพียงแค่ 10 ล้านบาทเท่านั้น โดยตกตัวละประมาณ 3 แสนบาท ตนมองว่าคุ้มค่าถ้าทำให้ชีวิตของประชาชน และผู้ปฏิบัติงานปลอดภัยมากขึ้น ทั้งนี้ตนเคยนำเรื่องดังกล่าวหารือกับ อบจ.จันทบุรี แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนอง โดยได้รับคำชี้แจงว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาหลักเท่าปัญหาภัยแล้ง

“เรายืนยันว่าเราก็รักช้างเช่นกัน ไม่ได้มองช้างเป็นศัตรู ไม่ได้อยากจะสู้รบกับช้าง แต่เราต้องปกป้องทรัพย์สินและชีวิตของพวกเรา และรักษาชีวิตของช้างด้วย ปัญหาช้างเสียชีวิตส่วนใหญ่มาจากเกษตรกร เพราะมีความแค้นกับช้างที่ทำลายสวน มีทั้งการยิง ไฟช็อต รวมถึงโรยปุ๋ยเคมีที่มีสารพิษให้ช้างกิน พวกตนก็ไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้น” นายจารุเดช กล่าว
ด้านนายมานะ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นนโยบายของตน โดยจะจัดหาโดรนและกล้องเอไอ เพื่อเฝ้าระวังช้างป่า ในจุดเสี่ยงทุกแห่ง เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนต่อไป ร่วมกับ สส.ของพรรคอย่างไร้รอยต่อ.