เมื่อวันที่ 27 ม.ค. พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกบินควบคุมไฟป่า กองทัพอากาศ ประจำปี 2568 ที่ลานจอดอากาศยาน ฝูงบิน 411 กองบิน 41 จ.เชียงใหม่ โดยมี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ให้การต้อนรับ โดย รมช.กลาโหม ได้ร่วมรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ไฟป่า และติดตามการแก้ไขปัญหาไฟป่าจากศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้า จ.เชียงใหม่ และความพร้อมของกองทัพอากาศในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก
สำหรับการฝึกบินควบคุมไฟป่าครั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาดังกล่าวตามนโยบายรัฐบาล รวมถึงทบทวนขั้นตอนการปฏิบัติของหน่วยบิน และหน่วยเกี่ยวข้องอื่น ๆ ให้ปฏิบัติร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ รองรับสถานการณ์ไฟป่าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยประยุกต์ใช้การปฏิบัติที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง (Network Centric Operations : NCO) เพื่อนำไปใช้เมื่อเกิดสถานการณ์จริง รวมทั้งดำรงขีดความสามารถความพร้อมรบของนักบินและหน่วยเกี่ยวข้อง เสริมสร้างความรู้และความชำนาญในการปฏิบัติภารกิจการบินควบคุมไฟป่าทั้งในระดับยุทธวิธีและระดับยุทธการ
ทั้งนี้ การฝึกปฏิบัติการจริงจะจัดขึ้นในวันที่ 27-31 ม.ค.นี้ ที่กองบิน 41 อุทยานแห่งชาติศรีลานนา, อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ (อ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา) จ.เชียงใหม่, สนามฝึกทางยุทธวิธีกองทัพภาคที่ 3 บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย, ฝูงบิอิสระ 416 จ.เชียงราย และฝูงบินอิสระ 466 จ.น่าน โดยมีผู้เข้ารับการฝึกจาก ทอ. 260 คน และจากหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง 100 คน รวมผู้เข้ารับการฝึก 360 คน มีอากาศยานจากกองทัพอากาศเข้าร่วมการฝึก 8 เครื่อง และจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 7 เครื่อง ประกอบด้วย การบินกระจายเสียง เพื่อรณรงค์สร้างการรับรู้และเข้าใจในการไม่เผาป่าในพื้นที่ที่ยากแก่การเข้าถึง รับรู้ข้อมูลข่าวสาร โดยอากาศยานของ ทอ. แบบ AU-23 หรือ Peace Maker, การบินเพื่อลาดตระเวนค้นหาพื้นที่ไฟป่า (SENSOR) โดยอากาศยานของ ทอ. AU-23 หรือ Peace Maker, DA-42 Diamond, อากาศยานไร้คนขับ Aerostar BP, AT-6 และอากาศยานของกระทรวงทรัพยากรฯ (ทส.) แบบ KODIAK 100
โดย พล.อ.ณัฐพล กล่าวเปิดการฝึกว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองมาโดยตลอด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกภาคส่วนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ดังกล่าว ที่เป็นปัญหาเร่งด่วนสำคัญของชาติ การฝึกครั้งนี้จึงนับเป็นการเตรียมความพร้อมในการรับมือปัญหาดังกล่าว ด้วยการบูรณาการกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือเพื่อช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนให้มีอากาศสะอาดในการดำรงชีวิตประจำวันได้อย่างยั่งยืน.