นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ (28 ม.ค.) ว่ากระทรวงดีอี จะนำเสนอแก้ไขพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ให้ธนาคารและค่ายมือถือร่วมจ่ายผู้เสียหาย รวมถึงเพิ่มโทษแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ ครม.พิจารณา เพื่อขอความเห็นชอบ ส่วนสาระสำคัญและรายละเอียด ขอให้ ครม.เห็นชอบก่อน และจะแจ้งให้ทราบภายหลัง
สำหรับร่าง พ.ร.ก.ฉบับนี้หลังเสนอคณะรัฐมนตรีและมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จะมีผลบังคับใช้ ส่วนจะสามารถปราบปรามได้หมดหรือไม่นั้น ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรืออาชญากรรมไซเบอร์ในรูปแบบต่างๆ ประกอบกัน และนี่เป็นหนึ่งวิธีที่คิดว่าเป็นมาตรการที่ได้ผล
ขณะที่กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะปราบคอลเซ็นเตอร์ในปีนี้ให้หมดไป มั่นใจว่าจะสามารถทำได้ในกรอบเวลาที่กำหนดใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวยืนยันว่าทำได้ เพราะกฎหมายนี้เป็นหนึ่งในมาตรการดำเนินการ อีกทั้งยังมีมาตรการอื่นอีก เช่น การทำงานร่วมกับต่างประเทศ ในการทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีฐานที่ตั้งบริเวณชายแดน ถือเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านดิจิทัลครั้งล่าสุด ได้นำเสนอเรื่องนี้เป็นรายงานในที่ประชุม ซึ่งทุกประเทศก็เห็นด้วย ในการยกระดับ และถือว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นภัยที่ทุกประเทศต้องตระหนัก จึงต้องทำงานร่วมกัน