สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ว่า จากกรณีพิพาทยืดเยื้อเรื่องสิทธิการประมงระหว่างฝรั่งเศสกับสหราชอาณาจักร กรณีการออกใบอนุญาตให้แก่ชาวประมงของทั้งสองฝ่าย โดยสถานการณ์ทวีความตึงเครียดตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว กรณีหน่วยยามฝั่งของฝรั่งเศสยึดเรือประมง “คอร์เนลิส เกิร์ต แจน” ของสหราชอาณาจักร แล้วลากเข้าสู่ฝั่งที่เมืองเลอ อาฟวร์ ที่อยู่ทางเหนือของประเทศ บริเวณช่องแคบอังกฤษ เนื่องจากลูกเรือไม่สามารถ “แสดงหลักฐานที่ถูกต้องตามกฎหมาย” ในการจับสัตว์ทะเล

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน ในเมืองเลอ อาฟวร์ อาจปรับเรือคอร์เนลิส เกิร์ต แจน มากถึง 75,000 ยูโร (ราว 2.89 ล้านบาท) นอกเหนือจากค่าธรรมเนียมอื่นอีก เนื่องจากบนเรือมีหอยเชลล์มากถึง 2,160 กิโลกรัม “ที่ถือเป็นการลักลอบจับ”

ลังหอยเชลล์ที่ชาวประมงฝรั่งเศสจับในเขตน่านน้ำของสหราชอาณาจักร ที่ท่าเรือแห่งหนึ่ง ในแคว้นนอร์มังดี ทางตอนเหนือของประเทศ

ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส พบหารือกับนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ผู้นำสหราชอาณาจักร นอกรอบการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามกรอบของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ( ยูเอ็นเอฟซีซีซี ) ครั้งที่ 26 หรือ “คอป 26” ที่เมืองกลาสโกว์ และต่อมาผู้นำฝรั่งเศสประกาศ “เลื่อน” การใช้มาตรการกดดันทางการค้าต่อสหราชอาณาจักร จนกว่าการเจรจาระหว่างผู้แทนของทั้งสองประเทศ ที่มีสหภาพยุโรป ( อียู ) เป็นคนกลาง จะได้ข้อสรุปชัดเจน

FRANCE 24 English

เดิมทีรัฐบาลฝรั่งเศสมีแผนจำกัดการค้าข้ามช่องแคบอังกฤษ ด้วยการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบเรือและรถบรรทุกติดแผ่นป้ายทะเบียนของสหราชอาณาจักร ขณะที่รัฐบาลในกรุงลอนดอนขู่ดำเนินการทางกฎหมายกับรัฐบาลปารีส หากมีการใช้มาตรการฝ่ายเดียวดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสยังคงกล่าวหาสหราชอาณาจักร “เล่นการเมือง” ด้วยการปฏิเสธหรือชะลอการออกใบอนุญาตให้กับชาวประมงของฝรั่งเศส และ “ตั้งแง่” ไม่ให้เรือประมงของฝรั่งเศสเข้ามาในรัศมี 6-12 ไมล์ทะเล จากเส้นฐานชายฝั่งของสหราชอาณาจักร แต่รัฐบาลในกรุงลอนดอนยืนยัน ว่าได้ออกใบอนุญาตให้กับมากกว่า 89% ของเอกสารที่ยื่นเข้ามา.

เครดิตภาพ : AP