เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 28 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.นำเสนอแผนการจัดการปัญหาฝุ่น PM2.5 โดยแต่ละกระทรวงจะทำแยกกันไป ดังนี้ กระทรวงมหาดไทย สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศให้รับมือภัยพิบัติในครั้งนี้ ออกประกาศห้ามเผาให้มีการบริหารจัดการซังข้าวโพด ต้นอ้อยแห้ง ให้ใช้วิธีการฝังกลบแทนการเผา ทำปุ๋ยอินทรีย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมรับมือดับไฟป่า ขณะที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้ดูแลกลุ่มเปราะบางต่างๆโดยการให้หน้ากากอนามัย N95 และห้องคลีนรูมหรือห้องปลอดเชื้อเพื่อให้ผู้ป่วยและเด็กเล็กใช้บริการ
นายกฯ กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯให้ปฏิบัติการเชิงรุกที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้งบกลางที่จัดสรรในการจัดจ้างบุคคลากรเข้ามาดูแลพื้นที่ ที่มีไฟป่า กระทรวงเกษตรฯต้องไม่ให้มีการเผาทุกพื้นที่การเกษตร ซึ่งถ้าหากพบเจอจะตัดการสนับสนุนเงินเยียวยาจากรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.68 ถึงวันที่ 31 พ.ค.69 นอกจากนี้ยังมีการใช้ปฏิบัติการฝนหลวงในการลดฝุ่นละอองในอากาศ ด้านกระทรวงคมนาคม มีมาตรการให้ขึ้นรถเมลล์และรถไฟฟ้าฟรี 7 วันเพื่อเป็นการลดฝุ่น ซึ่งมีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนเพิ่มขึ้นอีกมาก โดยสำรวจแล้วพบว่ารถบนท้องถนนลดลง 500,000 คันต่อวัน ช่วงนี้จึงรู้สึกได้ว่าในกทม.รถติดน้อยลงคงเป็นมาตรการนี้ช่วยได้เยอะ
นายกฯ กล่าวอีกว่า ด้านกระทรวงอุตสาหกรรม เร่งขอความร่วมมือโรงงานและสมาคมชาวไร่อ้อยไม่ให้รับอ้อยที่มาจากการเผาเกิน 25%ต่อวัน โดยกระทรวงอุตสาหกรรมปฏิบัติอย่างจริงจังและได้ผลเป็นอย่างดี สถิติเหลือเพียง 10%ต่อวัน และทุกโรงงานน้ำตาลให้ความร่วมมืออย่างดี
เมื่อถามว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ระบุว่ารัฐบาลมีแต่การสั่งงาน แต่ยังไม่เห็นการติดตามงานหรืออะไรที่เป็นรูปธรรมจากสิ่งที่ได้สั่งไปแล้ว นายกฯ กล่าวว่า อย่างที่ได้รายงานไป ทุกกระทรวงมีการติดตามอย่างใกล้ชิด ก็เป็นงานของรัฐบาล และแต่ละกระทรวงที่ต้องตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดยังไงก็สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในแต่ละกระทรวงที่แจ้งไว้.